วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้หารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 4 จังหวัด ทั้งกรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต และเชียงใหม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับนโยบาย เปิดผับถึงตี 4
นายเศรษฐา กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันในการขยายระยะเวลาสำหรับเปิดสถานบริการในจังหวัดนำร่อง 4 จังหวัด ทั้งกรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต และเชียงใหม่ ถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญ จนถึงเวลา 04.00 น. โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 นี้ โดยจะทำเป็นมาตรการชั่วคราว
ทั้งนี้ยังได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ไปศึกษาระยะเวลาที่เหมาะสม โดยจะกำหนดเป็นโซนนิ่งในแต่ละจังหวัด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะไปกำหนดพื้นที่ต่อไป
นายเศรษฐา กล่าวว่า การดำเนินมาตรการนี้ จะช่วยสนับสนุนเรื่องของการท่องเที่ยว และเรื่องการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เพราะในการขยายระยะเวลาการเปิดสถานบริการนั้น จะมีผลไปถึงร้านอาหาร และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวสามารถเปิดบริการได้นานขึ้น ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของผับบาร์เท่านั้น
“ที่ผ่านมาได้ศึกษาแล้วว่า มาตรการส่วนนี้จะช่วยงการใช้จ่ายนักท่องเที่ยว เพราะพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยบางทีเขาทานอาหารดึก 3-4 ทุ่ม เราเลยมีการขยายระยะเวลาในส่วนนี้ก่อน ส่วนความเป็นห่วงเรื่องยาเสพติดในสถานบริการได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลต่อไป” นายกฯ กล่าว
ก่อนหน้านี้ในคราวประชุมครม. เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 นายกรัฐมนตรี เสนอว่า ตามที่ครม. ได้มีมติ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 มอบหมายให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พิจารณาการขยายเวลาการเปิดสถานบริการในพื้นที่ท่องเที่ยวได้ในบางพื้นที่ตามความเหมาะสมจะมีส่วนช่วยกระตุ้น การท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่องต่อไปในช่วงฤดูการท่องเที่ยว (High Season) ซึ่งจะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนในพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้นด้วย
โดยขอให้กระทรวงมหาดไทย รับเรื่องนี้ไปหารือในรายละเอียดร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เหมาะสม เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ