จับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2566) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เตรียมรายงานข้อสรุปผลการหารือของคณะอนุกรรมการฯ นำเข้ามารายงานให้กับครม. รับทราบรายละเอียดทั้งหมดในวันนี้
ทั้งนี้ในส่วนของรายละเอียดของการดำเนินนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า รายละเอียดจะต้องรอความชัดเจนในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นี้ หลังจากมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้แถลงข้อสรุปแนวทางการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตด้วยตนเอง ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงเรื่องเงื่อนไข รายละเอียด และงบประมาณที่จะนำมาใช้ดำเนินโครงการ
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า รัฐบาลไม่มีความคิดที่จะถอยหลัง และต้องทำออกไปให้ดีที่สุด และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้คนได้รับผลประโยชน์สูงสุด โดยในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นี้ จะรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทั้งที่มาที่ไปทุกอย่าง ขั้นตอน ไทม์ไลน์ และกฎกติกาที่ชัดเจนต่อไป
สำหรับแนวทางเบื้องต้นที่คาดว่า คณะอนุกรรมการฯ จะต้องนำเสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณา นั่นคือ ทางเลือกอื่น ๆ ในการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท นอกเหนือไปจากการแจกแบบถ้วนหน้าตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 56 ล้านคน ใช้งบประมาณ 560,000 ล้านบาท โดยทางเลือกที่คณะอนุกรรมการฯ เตรียมเสนอนั้น มี 3 แนวทางประกอบด้วย
สำหรับเหตุผลที่ต้องจัดทำทางเลือกนั้น ที่ผ่านมาในการหารือของคณะอนุกรรมการ ฯ ได้รับข้อสังเกตจากหลายหน่วยงานว่า การแจกเงินดิจิทัล มีความเป็นไปได้หรือไม่ในการเลือกแจกให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย หรืออาจต้องตัดกลุ่มคนรวย หรือผู้ที่มีรายได้สูงออกจากโครงการไป เพื่อลดกรอบวงเงินของโครงการลงจากเดิม
ส่วนหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และรายละเอียดอื่น ๆ เช่น การกำหนดเงื่อนไขของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ ร้านค้า การพิจารณาคำนิยาม รวมทั้งการปรับปรุงเงื่อนไขเกี่ยวกับรัศมีการใช้จ่ายเงินดิจิทัล จากเดิมที่รัฐบาลกำหนดแนวทางเอาไว้ว่าให้ใช้ในรัศมี 4 กิโลเมตร ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน เป็นสามารถใช้จ่ายในระดับอำเภอ นั้น คณะอนุกรรมการ จะเสนอเข้าไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ขอให้รอการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้งในการประชุมวันที่ 10 พ.ย.นี้ ซึ่งจะมีรายละเอียดทั้งหมด