วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2566) ที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือติดตามสถานการณ์วัตถุดิบอาหารสัตว์และอาหารสัตว์ ว่า เบื้องต้นได้ขอให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์และผู้ประกอบการ รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ราคาหน้าโรงงาน 10 บาทต่อกิโลกรัมขึ้นไป ที่ระดับความชื้น 14.5% เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด
ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์จะหารือกับผู้ประกอบการอาหารสัตว์ถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ทำให้ปลดล็อคข้อกฎหมายต่าง ๆ ให้ผู้ประกอบการจะมีอิสระในการค้าขาย นำเงินเข้าประเทศ แข่งขันในตลาดโลกได้ ถือว่าเราติดกระดุมเม็ดแรกถูกต้องก็จะดำเนินการตามทาง
"วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมหารือกับโรงงานผลิตอาหารสัตว์และผู้ประกอบการ เรื่องปัญหาราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด โดยรัฐบาลปรารถนาดีที่อยากเห็นทั้งกระบวนการร่วมมือกัน อยู่ร่วมกัน หาจุดสมดุล" นายภูมิธรรม ระบุ
พร้อมด้วยนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมหารือกับโรงงานผลิตอาหารสัตว์และผู้ประกอบการ เรื่องปัญหาราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด เราปรารถนาดีที่อยากเห็นทั้งกระบวนการร่วมมือกัน อยู่ร่วมกัน หาจุดสมดุล ได้
ทั้งนี้จากการหารือทุกฝ่ายรับทราบสถานการณ์วัตถุดิบอาหารสัตว์ ว่าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์น้อยกว่าความต้องการของตลาด พร้อมทั้งมีการเสนอมาตรการเสริม โดยผู้ประกอบการกับผู้ผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หาจุดที่พอดีสำหรับผู้ผลิตเกษตรกรชาวไร่ ว่าควรเป็นราคาเท่าไหร่ ในรายละเอียดได้มอบให้อธิบดีกรมการค้าภายในไปหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ถ้าสามารถประกันราคาให้เกษตรกรพึงพอใจและได้กำไรตามสัดส่วนที่ควรจะเป็น
นายภูมิธรรม ระบุว่า ประเด็นแนวทางจัดการกับพืชเกษตรอื่นทั้งหลาย อยากให้เสนอข้อกฎหมาย กับข้อระเบียบที่เกี่ยวข้องที่ขัดขวาง หากอยู่ในอำนาจหน้าที่ที่ตนทำได้ก็จะทำให้ทันที หรือนำเข้า ครม. พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือหาความสมดุลให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ ช่วยกันแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ จะจับมือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์เดินหน้าให้ดีขึ้น โดยมีข้อสรุปดังนี้
1.เห็นพ้องกันประกันราคาให้เกษตรกรผู้ปลูก
2.เอื้ออำนวยให้เอกชน โดยรัฐหนุนให้แข็งแรงแข่งขันในตลาดโลกได้ ให้ธุรกิจอยู่รอดได้
3.จัดการปัญหาชายแดนที่อยู่ใต้ดินมาอยู่บนดิน เช่นการขนข้าวโพดเถื่อน ลงทะเบียนเข้าระบบที่เป็นธรรม เพราะ เราอยู่กับโลกสมัยใหม่ซึ่งมีข้อจำกัดเยอะทั้งการกำหนดด้านคาร์บอน เรื่องกรีน ความยั่งยืนหรือความสะอาด จะไปเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและห่วงโซ่
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ความต้องการอาหารสัตว์ปีละประมาณ 20 ล้านตัน ความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีละประมาณ 8.37 ล้านตัน โดยผลิตในประเทศได้ปีละ 4.89 ล้านตัน ส่วนนึงต้องนำเข้าเป็น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1.3 ล้านตัน วัตถุดิบทดแทนอีก 2.15 ล้านตันโดยประมาณ