นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการจำหน่ายสลากเลข 3 หลัก หรือสลากเอ็น3 ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด และจะมีการทดลองทำการจำหน่ายผ่านระบบแซนด์บ็อกซ์ก่อนว่ามีจุดดีจุดแข็งอย่างไร สามารถแข่งขันกับหวยใต้ดินได้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินใจทำออกมาจำหน่ายอย่างจริงจัง
ขณะที่การออกผลิตภัณฑ์สลากชนิดอื่นเพื่อสู้กับหวยต่างประเทศ หรือหวยเพื่อนบ้านนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดว่าจะออกรายวัน รายสัปดาห์ ซึ่งต้องศึกษารายละเอียดและใช้เวลาพิจารณา เนื่องจากสถานการณ์การเสี่ยงโชคเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
“การออกสลากเอ็น 3 มีวัตถุประสงค์หลัก คือ สู้กับหวยใต้ดิน แต่ขณะนี้รูปแบบการซื้อขายสลาก และหวยใต้ดินเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก จึงต้องดูว่าหากเอ็น 3 ออกมาจะเป็นคู่แข่งกันเองกับสลากดิจิทัล หรือลอตเตอรี่ออกมาในปัจจุบันหรือไม่ หรือจะสู้กับหวยใต้ดินได้ จึงต้องทำเป็นโมเดลทดลองก่อน ส่วนผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาสู้กับหวยเพื่อนบ้าน ก็ต้องดูรูปแบบไหน สำนักงานสลากฯทำได้แค่ไหนอย่างไรซึ่งต้องใช้เวลาพิจารณาอีกระยะหนึ่ง”
ในปีนี้สำนักงานสลากฯ จะเดินหน้าเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมา สลากดิจิทัลได้รับความนิยมจากผู้ซื้อและขายหมดในทุกงวด ที่สำคัญยังสามารถบรรเทาปัญหาสลากเกินราคา ทำให้ประชาชนซื้อสลากใบ 80 บาทได้จริง โดยในเร็วๆ นี้อาจเพิ่มอีก 1 ล้านใบ เป็น 23 ล้านใบ และจะเพิ่มต่อเนื่องให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
นอกจากนี้ ในช่วงกลางปีจะพิจารณาเปิดให้กลุ่มผู้มีสิทธิ์ซื้อจองสลากรายย่อยเข้ามาสมัครเป็นผู้ขายสลากดิจิทัลเพิ่มเติม หลังจากได้มีการเปิดให้แสดงความจำนงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และพบว่ามีผู้สนใจเข้ามาสมัครหลายหมื่นคน โดยผู้ที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากซื้อจองสลากใบ จะได้รับสลากขายเพิ่มจากงวดละ 3 เล่ม หรือ 300 ใบ เพิ่มขึ้นเป็น 5 เล่ม หรือ 500 ใบ ซึ่งจะทำให้ปริมาณสลากดิจิทัลในระบบมีเพิ่มขึ้นอีก
“เมื่อมีสลากดิจิทัลเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น สำนักงานสลากฯ ก็จะมีการพัฒนาระบบการจำหน่ายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ค้านำไปจำหน่ายด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้นผ่านสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลต เปรียบเสมือนแผงสลากดิจิทัล ไม่ต้องรอให้ระบบขายผ่านแค่แอปพลิเคชันเป๋าตังเพียงอย่างเดียว คนขายสามารถนำสลากไปเชียร์ขาย หรือทำการตลาดต่างๆ เองได้ด้วย หลังจากที่ผ่านมาได้มีการเพิ่งฟังก์ชั่นคิวอาร์โค้ด และการลดราคาให้ไปแล้ว โดยคาดว่าจะพัฒนาระบบเสร็จช่วงเดือนก.พ.-มี.ค.67”