นางสาวนิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวถึงความคืบหน้าในการปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะการปราบปรามบุหรี่เถื่อน ว่า ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้มีการยกระดับการปฏิบัติงานเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์
นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ EASE Excise ในการยกระดับการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้า โดยไม่ได้เสียภาษี โดยใช้เครื่องเอกซเรย์ช่วยในการตรวจสอบ ณ สำนักงานไปรษณีย์ ศูนย์คัดแยกกระจายสินค้าเอกชน
ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบรถขนส่งสินค้าที่มาจากพื้นที่เสี่ยงและเป็นการตัดตอนเส้นทางการส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ อาทิภาคเหนือที่จังหวัดนครสวรรค์ ภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดชุมพร และภาคตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดปราจีนบุรี
รวมถึงได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตที่มีการระดมเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศลงพื้นที่ตรวจสอบปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่เป้าหมายทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และเขตพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ
โดยผลจากการปฏิบัติงานการปราบปรามเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปรามและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาค ที่มีการลงพื้นที่ปูพรมปราบปราม ผู้กระทำผิดทั่วประเทศ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 20 - 21 กุมภาพันธ์ กรมสรรพสามิตสามารถจับผู้ลักลอบค้าบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ได้ใน 4 พื้นที่ รายละเอียด ดังนี้
1. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 สถานที่เกิดเหตุตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายละเอียดของกลางในคดี ดังนี้
2. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สถานที่เกิดเหตุที่ทำการไปรษณีย์ ตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายละเอียดของกลาง ดังนี้
3. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครสวรรค์ บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม ตรวจสอบสินค้ายาสูบที่ส่งผ่านศูนย์ไปรษณีย์นครสวรรค์ เพื่อกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตรวจยึดพัสดุสินค้ายาสูบที่ไม่ได้ชำระภาษีสรรพสามิต มีรายละเอียดของกลาง ดังนี้
4. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม ฝ่ายป้องกันและปราบปราม 3 สายตรวจสรรพสามิตที่ 3.3 บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต จำนวน 1 ราย คดียาสูบบุหรี่ซิการ์ต่างประเทศ ของกลางจำนวน 2,359 มวน ข้อหามีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามมาตรา 204 (1) ประมาณการค่าปรับ 3,892,350.- บาท
“กรมสรรพสามิตได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามและจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 อย่างเคร่งครัด ซึ่งสินค้าเหล่านี้หากเล็ดลอดไปได้จะสร้างความเสียหายให้กับรัฐเป็นอย่างมาก หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต”