เครือข่ายงดเหล้า สิ้นหวังรัฐบาล ปลดล็อกกม.คุม "น้ำเมา" เอื้อนายทุน

13 มี.ค. 2567 | 08:20 น.
อัปเดตล่าสุด :13 มี.ค. 2567 | 08:21 น.

เครือข่ายงดเหล้า ชี้ รัฐบาลอ้างสมดุลแต่เอียงข้างเอกชน ยก 8 ข้อปลดล็อกกฏหมายคุมน้ำเมาเอื้อนายทุน ดันเหล้าเบียร์ค้าขายได้เสรีมากขึ้น เมินผลกระทบทางสังคมและชีวิตประชาชน  

จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลส่งสัญญาณตีตกร่างแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับของภาคีป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับของประชาชน เบียร์ ผู้ผลิตรายย่อย และฉบับของพรรคก้าวไกล และจะส่งร่างแก้ไข พ.ร.บ.ของกระทรวงสาธารณะสุข พร้อมข้อเสนอแนะ 8 ประการเพื่อเปิดทางให้ค้าขายเหล้าเบียร์ได้เสรีมากขึ้นเข้าสู่การพิจารณาในสภาเร็ว ๆ นี้นั้น

นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ในฐานะที่ตนทำงานด้านการควบคุมแอลกอฮอล์มากว่า 20 ปีและเป็นหนึ่งใน 13 ล้านรายชื่อที่ร่วมสนับสนุน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551 กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประชุมเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาและเลขานายกรัฐมนตรีได้ชงข้อเสนอ 8 ข้อที่มีเนื้อหาทำให้กฎหมายฉบับนี้อ่อนแอลง ลดทอนอำนาจการบังคับใช้กฎหมายและเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มธุรกิจน้ำเมาและร้านเหล้า ผับ บาร์อย่างเห็นได้ชัด

ตั้งแต่หมวดนิยามการสื่อสารการตลาด จนถึงการให้โฆษณาออนไลน์ได้ ทั้งยังให้ลดราคาส่งเสริมการขายได้ ขยายเวลาขายให้ถึง 24 ชั่วโมง เรียกว่า ค้าขายกันแบบเสรีมากขึ้นซึ่งขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างสิ้นเชิง 

หากเป็นแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายควบคุม แก้กฎหมายเอาใจนายทุน ธุรกิจ คนรับกรรม คือ ประชาชน อย่างรายล่าสุดข่าว คือ คนปั่นจักรยานถูกคนเมาแล้วขับชนตาย 2 ศพที่จังหวัดสุรินทร์ หลังจากกินดื่มมาจากสถานบริการที่ตั้งอยู่ในโรงแรมที่รัฐบาลนี้อนุญาตให้ขายได้ถึงตี 4 

ต่อไปเราคงได้เห็น นักวิ่ง คนเดินถนน  คนกวาดถนน นักเรียนที่เดินทางไปกลับโรงเรียน พ่อค้าแม่ค้า หรือแม้แต่พระบิณฑบาตก็อาจจบชีวิตหรือพิการตามมาอีกมาก

นายธีระ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทราบว่า นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เสนอปรับลดมาตรการควบคุมสำคัญ ๆ ถึง 8 ประเด็นในร่างแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะส่งเข้าสภาเหมือนไม่ได้มองรอบด้านในผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำในหนังสือ Saving Live, Spending Less : The case for investing NCDs ที่มีสาระสำคัญ คือ ปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ ทั้งแอลกอฮอล์ บุหรี่ สารเสพติดต่าง ๆ หากรัฐบาลลงทุนแล้ว ผลตอบแทน ที่เรียกว่า Return of investment คุ้มค่ามหาศาล

โดยการศึกษาพบว่า ถ้าลงทุน 1 ดอลลาร์ ในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะได้ผลตอบแทน 8.32 ดอลลาร์ หรือลงทุน 35 บาท ได้ผลตอบแทนเกือบ 300 บาท ซึ่งเป็นการลงทุนทางเศรษฐกิจระยะยาวที่ยั่งยืนกว่า แต่รัฐบาลกลับเลือกผลตอบแทนระยะสั้น อ้างความต้องการจะให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มสะดวก โดยไม่พูดว่า แล้วผลกระทบที่จะตามมาจะแก้อย่างไร ทุกวันนี้รัฐบาลขาดทุนจากค่าความเสียหายทางเศรษฐศาสตร์กว่า 2 หมื่นล้านบาท จากที่เก็บภาษีได้ 1.4 แสนล้านบาท แต่ค่าความเสียหายกว่า 1.6 แสนล้านบาท  

รัฐบาลกำลังเดินทางผิดบนความสูญเสีย  เลือดเนื้อชีวิตของประชาชน  คงต้องให้ประชาชนตัดสินใจเอาเองว่า เราจะปล่อยให้เหล้าเบียร์เหมือนกับกัญชา กระท่อม ที่เกลื่อนเมืองกันอยู่ตอนนี้หรือ เหล้าเบียร์มีกฎหมายรองรับควบคุมมาอยู่แล้ว น่าจะรักษาและทำให้ดีขึ้น แต่กลับมาปลดล็อกให้เสรีเอาใจนายทุนแบบนี้ไม่ควรทำ นายธีระกล่าว