14 มีนาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ดีอี ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และพันธมิตร จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 44 ราย แบ่งเป็น ตัวการ 20 รายและบัญชีม้า 24 ราย พร้อมของกลางและสิ่งของที่ตรวจยึดจำนวน 1,913 รายการ มูลค่าประมาณ 69 ล้านบาท ดังนี้
1. เงินสด พร้อมตู้เซฟนิรภัย รวมจำนวน 8,754,580 บาท
2. เครื่องนับธนบัตร รวมจำนวน 2 เครื่อง
3. สร้อยทองพร้อมพระเลี่ยมทอง รวมจำนวน 5 เส้น
4. ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ หนักประมาณ 65 บาท (ปัจจุบันรับซื้อราคาบาทละ 36,600 บาท) มูลค่าประมาณ 2,379,000 บาท
5. กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม ("GG","LV") รวมจำนวน 20 รายการ
6. โฉนดที่ดิน (อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 34 ไร่ และ จ.มหาสารคาม 5 ไร่)
7. กระบือพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ชื่อ จ้าวเพชรสาเกต และมีตังค์ รวม 2 ตัว ราคา 5,600,000 บาท
8. กระบือสวยงาม และ โค พันธุ์บารห์มัน รวมจำนวน 22 ตัว
9. รถยนต์(Audi, Audi TT , Mini cooper clubman , BMW X4 ,Toyota ,Toyota Alphard, Honda civic, Hyundai STARIA, Ford Everest, Ford ranger ) รวมจำนวน 10 คัน
10. รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน
11. รถจักรยานยนต์ (ยี่ห้อ BMW, Honda Click) จำนวน 2 คัน)
12. รถ ATV จำนวน 2 คัน
13. อาวุธปืน (GLOCK 19,ลูกซอง Remington, แบลงค์กันและบีบีกัน 2 กระบอก, Smith & Wesson) และเครื่องกระสุนปืน รวมจำนวน 6 กระบอก
14. สมุดบัญชีธนาคาร (เป็นบัญชีม้ารวมจำนวน 928 เล่ม)
15. บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ATM (ไว้กดเงินบัญชีม้ารวมจำนวน 675 ใบ)
16. โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต รวมจำนวน 596 เครื่อง
17. ซิมการ์ดพร้อมใช้ รวมจำนวน 441 ชุด
18. พาสปอร์ตคนต่างด้าว รวมจำนวน 76 ชุด
19. ชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมจำนวน 13 เครื่อง
นายประเสริฐ รมว.ดีอี กล่าวว่า การร่วมจับกุมผู้กระทำผิดในครั้งนี้ ดีอี ยังได้ตรวจสอบเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ในระบบอินเทอร์เน็ต พบว่า มีผู้ลักลอบเปิดเว็บไซต์ชักชวนให้ประชาชนเล่นการพนันออนไลน์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม จึงประสานงานให้ตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้สั่งการให้ทำการสืบสวนโดยละเอียดในทุกมิติ พบว่ามีการกระทำความผิดจริง โดยกลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มคนที่มีอายุช่วงวัยรุ่นถึงวัยทำงาน มีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ภายในช่วงระยะเวลาไม่นาน (1-2 ปี) และจากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน
ประกอบกับพยานหลักฐานอื่น น่าเชื่อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจริง จึงนำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจำนวน 63 หมายจับ และสามารถขอหมายค้นสถานที่ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันจำนวน 31 จุดทั่วประเทศ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับสำนักงาน ปปง. สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้จำนวน 44 คน (แบ่งเป็นกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ 5 คน, กลุ่มเปิดบัญชีม้า จำนวน 24 คน, กลุ่มคนกด-ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จำนวน 8 คน, กลุ่มพนักงานทำเว็บพนัน จำนวน 7 คน) นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับรับว่าได้กระทำความผิดจริง โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ เริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดหาบัญชีม้า, กระบวนการเปิดบัญชีม้า, กลุ่มคนทำเว็บพนัน (แอดมิน, คนทำกราฟฟิก,คนทำบัญชี) และกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ โดยแต่ละกลุ่ม ได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินแตกต่างกัน ดังนี้
กลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้าพร้อมใช้ (ต้องมีพาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวประชาชน, สมุดบัญชี, บัตรเอทีเอ็ม, ซิมการ์ดโทรศัพท์พร้อมใช้) ได้รับเงินค่าจ้างจากเจ้าของเว็บหรือผู้จ้าง จำนวน 6,500-15,000 บาท โดยจะเอาเงินไปให้ผู้เปิดบัญชีเป็นค่าตอบแทนตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท ซึ่งบางรายได้ รายเดือนเดือนละ 500 บาทต่อบัญชี (หากเป็นบัญชีคนไทยจะได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำกว่า บัญชีของคนต่างด้าว
นอกจากนี้ยังมีลักษณะการเช่าบัญชีม้ารายเดือน เดือนละ 5,000-10,000 บาทนอกจากนี้หากบัญชีม้าที่กลุ่มนายหน้าจัดหามาเกิดมีการปิดบัญชี หรือไม่ส่งมอบเงินให้ตามที่ตกลง ก็จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปติดตาม ทำร้ายร่างกาย เตะ ต่อย บางครั้งมีการใช้ไม้เบสบอลทุบตีให้ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน
กลุ่มผู้ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จะได้เงินค่ากดเงินครั้งละ 1,000-50,000 บาท เป็นรายครั้ง หากถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า (แล้วแต่จำนวนยอดรวมที่กดเงินออกมา)
กลุ่มพนักงาน (แอดมิน,คนทำบัญชี,ฝ่ายโฆษณา,คนทำระบบ) ได้รับค่าตอบแทนรายเดือน รวมกับโบนัสเป็นแรงจูงใจจากเจ้าของเว็บพนัน ซึ่งแล้วแต่ตกลงกัน
ผู้รับผลประโยชน์จะนำเงินที่ได้จากเว็บพนัน โดยนำไปซื้อทรัพย์สินและเอาไปฟอกในธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งในกรณีนี้มีการตรวจยึดฟาร์มกระบือสวยงาม ระดับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ดีกรีแชมป์การประกวดกระบือ ราคาตัวละหลายล้านบาท พบเปิดมาแล้วหลายปี มีการเผยแพร่ออกสื่อแล้วหลายครั้ง
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอฝากเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หากเปิดบัญชีม้าจะมีผลกระทบที่ตามมา ทั้งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และอาจถูกนำไปใช้ในธุรกิจสีเทา สำหรับกลุ่มที่ลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันในรูปแบบต่างๆ ทางภาครัฐ มีนโยบายปราบปรามและจับกุมอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และถูกยึดทรัพย์ในที่สุด