วันนี้ (15 มีนาคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวมอบนโยบายภายหลังการแถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินเงินกู้ของแก่บุคลากรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ จำนวน 11 หน่วยงาน ว่า ขอชื่นชมในความตั้งใจทำงาน ข้าราชการเป็นภาคส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้เดินไปข้างหน้าได้ ถ้าเกิดเรามีหนี้สินล้นพ้นตัว ชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำงานเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ดอกเบี้ย ตนคิดว่าเป็นสารตั้งต้นของความหายนะของประเทศ
นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ใช่แค่มีเงินไม่พออย่างเดียว แต่หันไปพึ่งสิ่งที่ไม่ถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือทุจริตประพฤติมิชอบ เป็นสารตั้งต้นที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นการรวมตัวกันในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขกฎหมายเพื่อไม่ต้องออกจากราชการ มีเงินใช้ 30% มีสินเชื่อพิเศษเป็นนิมิตหมายที่ดี
“คำที่เราต้องยินบ่อยมากที่สุดในวันนี้ คือคำว่า ลดดอกเบี้ย ผมเข้าใจว่าหลายหน่วยงานต้องหวังเรื่องการปันผล เรื่องกำไร ซึ่งวันนี้ต้องขอขอบคุณ ว่าเราทุกคนยังคำนึงถึงเรื่องการลดดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าแบงก์ชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ไม่ลด แต่ว่าท่านลด ผมก็ขอขอบคุณจากใจจริง"นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐา เชื่อว่า ประชาชน ข้าราชการหลาย ๆ คน คงจะเป็นหนี้บุญคุณ และขอบใจในความประสงค์ดีของทุกท่านในที่นี้ เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องที่เราใส่ใจเป็นพิเศษ เข้าใจว่าแต่ละหน่วยงานมี KPI การที่ต้องเฉือนเนื้อเพื่อลดดอกเบี้ยเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี
นายเศรษฐา กล่าวสรุปทิ้งท้ายว่า ขอฝากเรื่องลดดอกเบี้ย เพิ่มวงเงิน หา Solution ให้เกิดขึ้นให้ได้ เชื่อว่าทุกคนพยายามแล้ว แต่ขอให้ทะเยอทะยานอีก เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ดีขึ้นได้
นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ภายหลังเรื่องการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมว่า ถ้าลดดอกเบี้ยจะสามารถลดรายจ่ายได้ส่วนหนึ่ง
“ก็อย่างที่บอก แบงก์ชาติไม่ลด อย่างน้อยก็ดีที่หน่วยงานเหล่านี้มีจิตใต้สำนึกที่ดี ที่มีการลดดอกเบี้ย ผมขอขอบคุณ เพราะการทำงานต้องทำด้วยใจจริง ๆ”นายเศรษฐากล่าว
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการแถลงว่า นายกฯ ได้ระบุถึงปัญหาหนี้สินของข้าราชการ และบุคลากรภาครัฐ ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล เนื่องจากหนี้สินของข้าราชการครู ตำรวจ ทหาร รวมทั้งพนักงานรัฐวิสาหกิจ และบุคลากรภาครัฐ ซึ่งเป็นลูกจ้างของรัฐบาล เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาลที่จะต้องดูแล
ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้บริหารได้รายงานในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขกฎหมายไม่ให้ออกจากราชการ ให้ข้าราชการมีเงินใช้หลังหักหนี้แล้วเพียงพอต่อการดำรงชีพและดูแลครอบครัว รวมถึงการจัดทำสินเชื่อพิเศษ และการลดดอกเบี้ย ตนเองเข้าใจว่าหลาย ๆ หน่วยงานมีความตั้งใจดี ต้องขอขอบคุณอย่างใจจริง
โดยนายกฯ ได้ฝากให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการเชื้อเชิญสหกรณ์ให้เข้ามาอยู่ในระบบเพิ่มขึ้น เพราะทุกวันนี้หนี้สินก็ไม่ได้ลดลง ขอให้พยายามมากขึ้น ตนเองเข้าใจขีดจำกัดการทำงาน แต่ในเมื่อเป็นผู้บริหารระดับสูง เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ต้องพยายามหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ขอให้ทุกคนมีความทะเยอทะยานในการช่วยเหลือประชาชนให้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หากได้ลงในพื้นที่จะเข้าใจถึงความยากลำบากของพี่น้องประชาชน ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหารายได้เพิ่มเติมให้กับประชาชน เรื่องของที่อยู่อาศัยให้อยู่อาศัยได้อย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรี รวมถึงเรื่องของการรักษาพยาบาลต้องให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่ดี ซึ่งทั้งหมดถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ
“ผมเชื่อว่าท่านทั้งหลายจะประสบความสำเร็จ เป็นแบบอย่างที่ดีให้ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหาที่ยากเย็นนี้ การแก้ไขหนี้ฯ เป็นกระบวนการที่ต้องการความใส่ใจ ความร่วมมือ และความต่อเนื่อง ผมขอให้กำลังใจ และจะขอรับการรายงานความก้าวหน้าและความสำเร็จอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ผมจะเร่งหารือกับท่านผู้เกี่ยวข้องว่าควรประสานขอความร่วมมือใด จากฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการ เพื่อให้ภารกิจการแก้ไขหนี้มีความสำเร็จ และเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่อไป”