กรณี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ยักษ์รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของไทย แจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงข้อเท็จจริงจากกระแสข่าวประสบปัญหาสภาพคล่อง จ่ายเงินเดือนพนักงานไม่ครบตามจำนวน ว่าเป็นเรื่องจริงและมีความพยายาม เจรจากับสถาบันการเงิน สนับสนุนสินเชื่อเพื่อลดผลกระทบ รวมถึงเจรจากับภาครัฐเร่งเบิกจ่าย เงินชดเชยค่างานก่อสร้าง (ค่าเค) ให้มีเงินหมุนเวียนเข้ามา โดยเฉพาะบางโครงการภาครัฐอาจมีข้อกำจัดในการทำงานเป็นสาเหตุให้การเบิกจ่ายล่าช้าออกไป
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงกรณีที่ ITD ติดปัญหาสภาพคล่องว่า ที่ผ่านมาผู้รับเหมาในโครงการต่างๆบนถนนพระราม 2 ได้รับผลกระทบจากกรมทางหลวง (ทล.) จำกัดเวลาในการก่อสร้างเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้โครงการต่างๆมีความล่าช้ากว่ากำหนด ส่งผลให้เอกชนมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น
สาเหตุดังกล่าว ปัจจุบันกระทรวงเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าเคให้กับเอกชนในภาพรวมไม่ใช่เฉพาะ ITD เท่านั้น เบื้องต้นกระทรวงอยู่ระหว่างหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อเร่งรัดของบประมาณรายจ่ายงบกลางในการจ่ายค่าเคให้กับเอกชนที่ได้รับผลกระทบบนถนนพระราม 2 เพื่อให้โครงการต่างๆบนถนนพระราม 2 สามารถเปิดให้บริการได้ทันภายในปี 2568 คาดว่าจะได้รับงบประมาณฯ ภายใน 2-3 เดือน
“ที่ผ่านมาการจ่ายค่าเคอยู่ที่สำนักงบประมาณว่าจะสามารถจ่ายได้อย่างไร โดยส่วนใหญ่จะเป็นการนำงบประมาณรายจ่ายงบกลางมาดำเนินการ ซึ่งจะต้องพิจารณาดูด้วยว่าความสามารถในการนำงบกลางมาจ่ายของรัฐบาลมีมากน้อยแค่ไหน”
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า กรณีที่ ITD เกิดปัญหาสภาพคล่องนั้นปัจจุบันกทพ.มีการเบิกจ่ายค่าเคตรงตามงวดมาตลอด เนื่องจากกทพ.ใช้งบประมาณจากกองทุน (TFF) มาชำระให้แก่เอกชนทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ ขณะนี้พบว่ากทพ.มีการเบิกจ่ายค่าเคให้เอกชนไปแล้วประมาณ 60%
ด้าน นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงกรณีITD เกิดปัญหาสภาพคล่องจนส่งผลกระทบต่อการจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาช่วง (ซับคอนแทรค) นั้น ในปัจจุบัน ITD จะมีสัญญาก่อสร้างในโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทย-จีน ระยะที่ 1 และโครงการรถไฟทางคู่ แต่ยืนยันว่าไม่ได้กระทบต่อแผนโครงการฯของรฟท. ซึ่งเอกชนยังคงดำเนินการตามปกติ
“ปัญหาภายในของเอกชนที่เกิดขึ้น เราไม่ขอก้าวล่วงแต่รฟท.คงจับตามองงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการของ ITD เป็นพิเศษ ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาอะไร ส่วนการเบิกจ่ายเงินให้เอกชนไม่ได้มีความล่าช้า แต่ติดเรื่องการเบิกจ่ายเงินชดเชยค่างานก่อสร้าง (ค่าเค) ที่ต้องรองบประมาณปี 2567 ก่อน คาดว่าหากสามารถเบิกจ่ายค่าเคได้จะทำให้เอกชนสบายตัวมากขึ้น”
สำหรับโครงการของรฟท.ที่อยู่ในมือ ITD จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว วงเงิน 26,560 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า ไอทีดี-เนาวรัตน์ เป็นผู้รับจ้าง ในสัญญาก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
2.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา- คลองขนานจิตร วงเงิน 7,560 ล้านบาท มีบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เป็นผู้รับจ้าง ในสัญญาก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
3.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ วงเงิน 9,290 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า ไอทีดี-อาร์ที เป็นผู้รับจ้าง ในสัญญาก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
4.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 5,807 ล้านบาท มีบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เป็นผู้รับจ้าง ในสัญญาก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
5.โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 3-1 งานโยธา สำหรับช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า วงเงิน 9,348 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า ITD-CREC No.10 เป็นผู้รับจ้าง ในสัญญาก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)