ธุรกิจสื่อรุมชิงเค้กเงินโฆษณา 1.14 แสนล้าน ปี 2567 จับตาออนไลน์โต

31 มี.ค. 2567 | 06:51 น.
อัปเดตล่าสุด :31 มี.ค. 2567 | 06:55 น.

สถานการณ์เงินโฆษณาในอุตสาหกรรมสื่อ ปี 2567 คาดธุรกิจสื่อแข่งกันชิงเค้กก้อนใหญ่ มูลค่ากว่า 1.14 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากปีก่อน จับตาสื่อออนไลน์ อินเตอร์เน็ตเติบโต

ดร.สร เกียรติคณารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ เงินโฆษณาในอุตสาหกรรมสื่อ และการวางแผนปรับตัวเทรนด์ ปี 2024 ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า เงินในอุตสาหกรรมสื่อของปี 2567 อยู่ที่ 114,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 111,601 ล้านบาท 

โดยเงินโฆษณาส่วนใหญ่ ยังอยู่ที่โทรทัศน์สูงสุด 46% ที่มูลค่า 53,213 ล้านบาท รองลงมาเป็น อินเทอร์เน็ต 29% ที่มูลค่า 33,679 ล้านบาท และ Outdoor 9% ที่มูลค่า 9,845 ล้านบาท 

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้เงินโฆษณาในสื่อโทรทัศน์จะสูงสุดเป็นอันดับ 1 แต่กลับพบว่าอัตราการขยายตัวลดลงจากปีก่อน -2.5% ในขณะที่เงินโฆษณาในสื่ออินเตอร์เน็ต กลับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 10%

สำหรับธุรกิจที่ซื้อสื่อโฆษณาสูงสุด 3 อันดับแรกของปี 2567 นี้ คือ

  • อันดับ 1 ธุรกิจในกลุ่ม Skin care คิดเป็นสัดส่วน 16% หรือคิดเป็นเงินกว่า 5,040 ล้านบาท 
  • อันดับ 2 กลุ่มยานยนต์ คิดเป็นสัดส่วน 9% หรือคิดเป็นเงินกว่า 2,957 ล้านบาท 
  • อันดับ 3 กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ คิดเป็นสัดส่วน 8% หรือคิดเป็นเงินกว่า 2,548 ล้านบาท 

แต่หากพิจารณาในแง่อัตราการเติบโต จะพบว่า กลุ่ม Skin care ซื้อโฆษณาเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 40% รองลงมา คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซื้อโฆษณาเพิ่มขึ้น 26% และกลุ่มค้าปลีก ซื้อโฆษณาเพิ่มขึ้น 16% ส่วนธุรกิจที่ซื้อสื่อโฆษณาลดลงมากสุด คือ กลุ่มธนาคาร ลดลงจากปีก่อน -4%

 

สถานการณ์ เงินโฆษณาในอุตสาหกรรมสื่อ และการวางแผนปรับตัวเทรนด์ ปี 2024

เงินโฆษณาผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตเติบโต

สำหรับในปี 2567 นี้ เงินโฆษณาผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต มีอัตราการเติบโตสูงถึง 10% จากปีก่อน สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอยู่กับอินเตอร์เน็ตเป็นเวลานานเฉลี่ยถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน ตลอดจนไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เช่น การสั่งอาหาร การซื้อสินค้า การทำธุรกรรมทางการเงิน ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุให้เงินโฆษณา ไหลไปอยู่ในสื่ออินเตอร์เน็ตเป็นอันดับ 2 รองจากโทรทัศน์ที่เป็นสื่อหลักอยู่แล้ว

โดยในปี 2567 เงินโฆษณาผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตสูงสุด อยู่ที่ Meta (Facebook+Instagram) ที่มูลค่า 8,870 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 28% รองลงมา คือ Youtube ที่มูลค่า 4,477 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 14% และอันดับ 3 Tik Tok ที่มูลค่า 3,070 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10% 

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้จะมีเงินโฆษณาทาง Meta สูงสุด แต่อัตราการเติบโตกลับไม่สามารถสู้ Tik Tok ที่มาแรงได้ ซึ่งมีข้อมูลพบว่า ในปี 2566 เงินโฆษณาทาง Tik Tok เติบโตถึง 103% ส่วนปีนี้ คาดว่าการเติบโตจะอยู่ที่ 44% และยังเป็นการเติบโตที่สูงสุดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นทางอินเตอร์เน็ต โดยยังคงแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่องในปี 2568

 

ข้อมูลสถานการณ์ เงินโฆษณาในอุตสาหกรรมสื่อ และการวางแผนปรับตัวเทรนด์ ปี 2024

 

โฆษณาดิจิทัลปี 2567 แนวโน้มสดใส

สำหรับการโฆษณาดิจิทัลของไทยในปี 2567 มีแนวโน้มสดใสขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภูมิทัศน์ดิจิทัลที่กำลังเติบโต ขณะที่เสถียรภาพทางการเมืองและนโยบายเพิ่มเติมจากรัฐบาล เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้

นอกจากนี้ ภูมิทัศน์ดิจิทัลที่เติบโตขึ้นและเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะช่วยส่งเสริมการใช้จ่ายในการโฆษณาดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสรรคจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อาจทำให้นักการตลาดต้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พร้อมมองว่า การโฆษณาดิจิทัลยังคงช่วยเพื่อเพิ่มการรับรู้ถึงและการเข้าถึงของแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยการใช้เครื่องมือการตลาดผ่านอีคอมเมิร์ยังคงเหนือกว่าเครื่องมืออื่นๆ เป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ส่วนความสนใจและความสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2567 จาก 27% หรืออันดับที่ 8 ในปีที่แล้ว มาเป็น 65% (อันดับที่ 2) ในปีนี้

ขณะเดียวกัน การใช้ Social Listening และ Social Analytic ก็นับว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับความสำคัญ และความสนใจมากขึ้นในปีนี้ด้วยเช่นกัน