กางอำนาจ "ซุปเปอร์บอร์ด" ปั้น "Entertainment Complex" ลุยกาสิโนถูกกฎหมาย

02 เม.ย. 2567 | 10:06 น.

"จุลพันธ์" คิ๊กออฟ "กาสิโนถูกกฎหมาย" ชง ครม. 1-2 สัปดาห์ ไฟเขียว "พระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...." ตั้ง "ซุปเปอร์บอร์ด" ลุย "Entertainment Complex" ปั๊มรายได้เข้ารัฐแสนล้าน

KEY

POINTS

  • เปิดโครงสร้าง "ซุปเปอร์บอร์ด" ชี้ขาด "กาสิโนถูกกฎหมาย" นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะ
  • ส่องอำนาจ-หน้าที่ ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต อัตราค่าธรรมเนียม "สถานบันเทิงครบวงจร"
  • ระงับ-เพิกถอนใบอนุญาต กำหนดพื้นที่ "Entertainment Complex" 

 

อีกเพียง 1-2 สัปดาห์ รายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นการ "นับ 1" ในการเดินหน้า "กาสิโนถูกกฎหมาย"

"จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" รมช.คลัง ย้ำทั้งที่รัฐสภาและทำเนียบรัฐบาลว่า ไม่ได้เรียกว่า "กาสิโน" แต่เรียกว่า "Entertainment Complex" เป็น "Bussiness Model" ที่แตกต่าง หรือบางที่เรียกว่า "Integrated Resort"

นายจุลพันธ์กล่าวว่า หลังจากผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้เแทนราษฎรเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 จากนั้น 4-5 วันจะมาถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อบรรจุระเบียบวาระปกติ คาดว่าไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีว่าจะมี "ข้อสั่งการ" อย่างไร 

"จากการรับฟังครม.ในเบื้องต้น เป็นไปในทางบวก เห็นไปในทางตรงกันว่าเป็นไปในทางบวก เป็นการเอาปัญหาของสังคมมาไว้ข้างบนและใช้กลไกของกฎหมายกำกับดูแลเพื่อป้องกันผลกระทบทางลบที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยรัฐเก็บรายได้เข้ารัฐ เกิดการจ้างงาน เกิดการสร้างอาชีพให้ประชาชน ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นมีกลไกของกฎหมายในเรื่องของกองทุน"นายจุลพันธ์ในฐานะประธานคณะกรรมการธิการวิสามัญฯกล่าว  

หลัง "กฎหมายกาสิโน" ดราฟท์แรก เสร็จองคาพยพจะเกิด เช่น "ซุปเปอร์บอร์ด" ที่จะเกิดขึ้นระดับประเทศเป็น "ผู้กำหนดพื้นที่" เป็น "คนชี้ขาด" ว่าผู้ประกอบการรายใดจะได้ลงทุน "Entertainment Complex" แต่ละแห่งไม่ต่ำกว่า "แสนล้านบาท" 

หากเปิดโครงสร้าง "ซุปเปอร์บอร์ด" ซึ่งระบุอยู่ใน "พระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...." ไว้ในมาตรา 6 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการนโยบายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร” ประกอบด้วย 

  • นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ 
  • รองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นรองประธานกรรมการ 
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นกรรมการ 
  • ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากนักวิชาการหรือตัวแทนภาคประชาสังคมจำนวนไม่เกิน 4 คน เป็นกรรมการ 

ทั้งนี้ ให้เลขาธิการเป็นเลขานุการ 

ขณะที่อำนาจ-หน้าที่กำหนดไว้ใน มาตรา 13 ให้คณะกรรมการมีนโยบายมีหน้าที่และอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้  

  • กำหนดนโยบายการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร 
  • กำหนดนโยบายการบริหารจัดการการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร 
  • กำหนดนโยบายป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร 
  • ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตสำหรับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
  • ออกประกาศกำหนดลักษณะและประเภทของธุรกิจที่อาจดำเนินการได้ในสถานบันเทิงครบวงจรตามบัญชีแนบท้าย รวมถึงพนักงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงครบวงจรที่ต้องได้รับอนุญาต และอนุมัติแผนงานต่าง ๆ รวมถึงงบประมาณในการดำงานของสำนักงานด้วย 
  • ออกประกาศกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร 
  • ออกประกาศเพื่อกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร 
  • ออกประกาศเพื่อกำหนดประเภท คุณสมบัติ มาตรฐาน และความปลอดภัย อาชีวอนามัยของแรงงานในสถานบันเทิงครบวงจร 
  • แต่งตั้งเลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีและแต่งตั้งรองเลขาธิการ
  • พิจารณาอนุญาต ระงับ หรือเพิกถอนใบอนุญาต
  • พิจารณาอุทธรณ์ของผู้รับใบอนุญาต
  • ปฏิบัติการอื่นตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี 

มาตรา 14 ในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ คณะกรรมการนโยบายจะตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการตามที่มอบหมายก็ได้

การประชุมและการลงมติของคณะอนุกรรมการ ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด