รัฐบาลจะเริ่มจัดเก็บจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทต่อกล่องพัสดุ โดยเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต (VAT) 7% สำหรับสินค้าที่สั่งจากต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางภาษี โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศจีนที่เข้ามาทุ่มตลาดในประเทศไทย และจงใจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า
ต่อเรื่องดังกล่าวนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน กล่าวให้ความเห็นว่า เป็นอัตราที่สมเหตุสมผล โดยเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้า E-commerce ข้ามพรมแดน ซึ่งสินค้าจากจีนถือว่าเป็นสินค้าที่มีราคาถูก
“การเรียกเก็บภาษีดังกล่าวนี้ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ โดยแต่เดิมที่สินค้าจีนได้เปรียบโดยเฉพาะสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ที่นำเข้ามาโดยไม่เสียภาษี ซึ่งการขึ้น vat 7% จะไม่กระทบ เพราะผู้บริโภคคุ้นเคยกับสินค้าจีน โดยเฉพาะสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น สินค้าราคา 100 บาทก็จะเพิ่มขึ้น 7 บาทซึ่งก็ถือว่าไม่มากและถือว่ายุติธรรม”
ทั้งนี้ นักธุรกิจจีนในประเทศไทยเชื่อมั่นว่า ครึ่งหลังปี 2567 จะดีกว่าครึ่งแรกของปีและมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีจะโตได้ถึง 3% จากปัจจัยหนุนหลักที่จะมาจากรายได้ของการท่องเที่ยว รวมถึงการส่งออกสินค้า และจากอานิสงส์สินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูงขึ้น จากผลผลิตที่ลดลงจากปัจจัยภัยแล้ง
ส่วนภาคการลงทุนทราบว่านักลงทุนจีน โดยเฉพาะยานยานต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ที่เข้ามาแล้วหลายค่าย และเข้ามาตั้งโรงงานแล้วในปีนี้ รวมถึงการลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์ พลังงานหมุนเวียน ธุรกิจยา จะหลั่งไหลเข้ามาตั้งฐานผลิตในไทยมากขึ้น
“นักลงทุนจีนในไทยมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในไทย โดยมีมุมมองดีขึ้นและสูงขึ้นในครึ่งปีหลัง สะท้อนถึงความมั่นใจต่อการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งไม่แค่นักลงทุนจีน แต่กำลังเห็นการเข้ามาของทุนสหรัฐ ยุโรป พร้อมขยายการค้าและลงทุนในอาเซียนอย่างมาก”
อย่างไรก็ดี ช่วง 2 เดือน ที่ผ่านมา นโยบายฟรีวีซ่าทำให้ประเทศไทยได้รับอานิสงส์มาก เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว นักท่องเที่ยวจากไทยเดินทางไปจีนน้อยกว่านักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางมาไทย
ซึ่งเบื้องต้นประเมินคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย 8-10 ล้านคน ดังนั้น รายได้ภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะเป็นไปตามเป้า 30 ล้านคน โดยถือว่าเป็นอัตราที่สูงเกือบเทียบเท่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า หอการค้าไทย-จีนมีแผนที่จะนำผู้ประกอบการไทย-จีน ในประเทศไทย เข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ ครั้งที่ 7 หรือ CCIE ครั้งที่ 7 เนื่องจากมองว่า งาน CIIE เป็นมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญมาก ที่จะสร้างตลาดขนาดใหญ่ของจีนให้กลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ของโลก จึงเชื่อมั่นว่าการร่วมงาน CIIE ครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้สินค้าอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นที่รู้จักและสามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้สะดวกยิ่งขึ้น