ทส.คุมเข้มมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ห้ามทำสัญญา หากไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน
หวั่น มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ 2567 เจอปมด้านสิ่งแวดล้อม “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” รมว.ทส. ทำหนังสือแจ้งเอกชน ระหว่างของ EIA ห้ามทำสัญญาจอง จะซื้อจะขาย หากยังไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน
กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการ เพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) หนึ่งในนั้นมีข้อเสนอของภาคเอกชนขอให้ครม.มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ โดยเฉพาะประเด็นข้อติดขัดด้านรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
โดยเสนอเข้ามาภายใต้มาตรการอื่น ๆ คือ ประเด็นการบรรเทาความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในกระบวนการขออนุมัติรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด โดยขอให้ผู้ประกอบการที่ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน สามารถยื่นและดำเนินการจนครบขั้นตอนในการได้รับอนุมัติรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในระหว่างที่ยังไม่ได้โอนที่ดินได้
ล่าสุดรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ ทส 0220.2/ล 125 ลงวันที่ 9 เมษายน 2567 เพื่อประกอบการพิจารณาของครม. ในวาระเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาแล้วมีความเห็นต่อประเด็นการบรรเทาความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในกระบวนการขออนุมัติรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด โดยขอให้ผู้ประกอบการที่ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน สามารถยื่นและดำเนินการจนครบขั้นตอนในการได้รับอนุมัติรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในระหว่างที่ยังไม่ได้โอนที่ดินได้นั้น
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่า แนวทางการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรณีอาคารชุด สามารถเสนอเอกสารสัญญา จะซื้อจะขายที่ดินที่มีกำหนดระยะเวลาในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานฯ ได้
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้เสนอรายงานฯ หรือเจ้าของโครงการประเภทอาคารชุดจะต้องไม่ทำนิติกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับห้องชุดให้กับประชาชน เช่น สัญญาจอง สัญญาจะซื้อจะขาย เป็นต้น ในขณะที่ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว โดยให้กำหนดเป็นมาตรการที่โครงการต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตามที่ประชุม ครม. ได้มีมติให้กระทรวงการคลัง ผู้เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ นำความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป