นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากจังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ ในปี 2566 กว่า 300,000 ล้านบาท ตนจึงมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวง ,บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนามบิน ตลอดจนโครงข่ายทางหลวง เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว แก้ไขปัญหาจราจรติดขัด พร้อมรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ให้มีความสะดวกและปลอดภัย
สำหรับการลงพื้นที่วันนี้ เพื่อติดตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในเรื่องการสร้างสะพานหรือทางแยกต่าง ๆ รวมถึงการบริหารจัดการจราจรและเตรียมการก่อนนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ ทั้งนี้ในจังหวัดภูเก็ตมีโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงคมนาคมที่สำคัญ อาทิ แผนพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างออกแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2568 เสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติได้ในปี 2569 ก่อสร้างปลายปี 2569 แล้วเสร็จปี 2572
ขณะที่โครงการพัฒนาท่าอากาศยานกระบี่ อยู่ระหว่างดำเนินการโอนจากกรมท่าอากาศยาน ให้ ทอท. บริหารจัดการ ส่วนโครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้ - ป่าตอง ซึ่งมีลักษณะเป็นอุโมงค์ โดยมีแนวคิดในการปรับรูปแบบอุโมงค์ของโครงการ เพื่อทำให้โครงการเดินหน้าได้เร็วขึ้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน คาดว่าจะนำเสนอ ครม อนุมัติได้ในเดือนธันวาคม 2568 ลงนามในสัญญาปี 2569 เปิดให้บริการปี 2573
ส่วนระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่ - เกาะแก้ว - กะทู้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณารายงาน EIA คาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้างและลงนามสัญญาได้ปลายปี 2569 เปิดให้บริการปี 2573
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดกรมทางหลวง (ทล.) ดำเนินโครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ ช่วงบ้านเมืองใหม่ – สามแยกเข้าสนามบินภูเก็ต, โครงการสะพานสารสินแห่งใหม่และโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล. 402 กับ ทล.4027 และ ทล.4025 (แยกท่าเรือ) บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี และท้าวศรีสุนทร ด้วย