นายนพดล ปัทมะ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมา เพื่อจะได้ทราบข้อมูลที่ทันต่อสถานการณ์ใช้แก้ปัญหาได้ดีขึ้น โดย กมธ.การต่างประเทศ ขอบคุณรัฐบาลที่ตั้งคณะกรรมการติดตามปัญหาเมียนมา ตามแนวทางที่เคยเสนอไป
“ประเทศไทยควรมีแผนรองรับปัญหาการอพยพ และการสู้รบในเมียนมาและนโยบายเรื่องแรงงานต่างชาติอย่างครอบคลุม ซึ่งไม่มั่นใจว่ามีหรือยัง กมธ.เห็นว่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดเป็นสิ่งซึ่งได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า การสู้รบจะทำให้มีผู้อพยพหนีภัยสงครามเข้าทยเป็นจำนวนมาก ทราบว่าขณะนี้มีจำนวนหลายพันคนแล้วและยังมีที่ตรวจสอบไม่ได้อีก เชื่อว่ามีคนต่างด้าวซ่อนตัวในจังหวัดรอบนอกกรุงเทพฯบ้างแล้ว”
ขณะเดียวกันปัญหาของคนเมียนมาที่เลี่ยงการเกณฑ์ทหารและอพยพข้ามเข้ามาในไทยมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอนเพราะ ไทยไม่สามารถทราบได้ว่าจะมีจำนวนเท่าไรและจะเป็นแรงงานที่ผิดกฎหมายที่ไม่มีเอกสารหรือไม่
ทั้งนี้ ปัญหาการสู้รบในเมียนมาในขณะนี้ได้รับความสนใจไปทั่วโลกแม้กระทั่งรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 ก็มีแถลงการณ์หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนมีแถลงการณ์ในประเด็นเมียนมา ซึ่งกมธ.ต่างประเทศ ขอย้ำข้อเสนอให้ประเทศไทยเป็นหัวหอกในการผลักดันการแก้ปัญหาและเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมจากทั่วโลก เพื่อช่วยพี่น้องเมียนมาและกลุ่มชาติพันธ์ุที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบ
และเสนอว่าประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนความห่วงใยของสังคมโลกเป็นการช่วยเหลือและแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมให้กับชาวเมียนมา เพื่อแก้ไขปัญหาด้านมนุษยธรรมและผลักดันการสร้างสันติภาพอย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมและยั่งยืน ซึ่งแนวทางในระดับอาเซียนเริ่มต้นจากฉันทามติ 5 ข้อ และแนวทางของกลุ่มประเทศ G7 ก็มีบางส่วนระบุไว้ในคำแถลงการณ์ด้วย
ประกอบกับขณะนี้มีการแต่งตั้งทูตพิเศษเรื่องเมียนมาของสหประชาชาติ และมีตัวแทนพิเศษเรื่องเมียนมาของอาเซียน ตนขอย้ำว่าข้อเสนอของ กมธ.เรื่อง ‘ทรอยก้าพลัส’ ที่จะเป็นกลุ่มขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาพม่าที่ประเทศไทยเป็นหัวหอกร่วมกับอาเซียน จีน และอินเดีย และอาจขยายไปยังประเทศอื่นๆ ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหา
“ขณะนี้มีสงครามในหลายภูมิภาคทั่วโลก แต่ปัญหาเมียนมาก็ควรได้รับการความใส่ใจและได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ได้เวลาหรือยังที่จะมีการประชุมปรึกษาหารือของประเทศต่างๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเมียนมาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน” นายนพดล กล่าว