บ่ายวันนี้ (13 พฤษภาคม 2567) ที่ท่าอากาศยานหัวหิน ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนามาตรฐานสนามบิน เพื่อรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ หรือ International flights
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้มาติดตามเร่งรัดการขยายรันเวย์ เพื่อรองรับเครื่องบินจากต่างประเทศ รวมถึงมาตรฐานของ ICAO ที่คาดว่าจะเสร็จภายใน 2 ปี ให้เร็วขึ้นอีก 6 เดือน เพื่อให้ทันไตรมาส 4 ปี 2568 ซึ่งจะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือ High Season ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับ hi-end เช่น พวกนักกอล์ฟ รวมไปถึงเสริมศักยภาพในการจัด World Class Event ในอนาคต
“ในเวลาปีครึ่งที่เหลือ ได้ฝากผู้ว่าการ ททท. ให้เร่งสร้าง Demand ไว้รอรับ พร้อมฝากกระทรวงคมนาคม เตรียมการเชื่อมโยงสนามบินในภาพรวมของทั้งประเทศ เพื่อชูการท่องเที่ยวทั้งประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี และเตรียมเสนอให้พิจารณาเปลี่ยนชื่อสนามบินหัวหิน เป็นสนามบิน เพชรหัวหิน ประเทศไทยมีศักยภาพมาก เหมือนเพชรรอการเจียระไน หากเราทำงานเร็วขึ้น 6 เดือน ประโยชน์ก็จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนเร็วขึ้น 6 เดือนด้วย” นายกฯ กล่าว
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญว่า ในการเดินทางมาตรวจเยี่ยมสนามบินหัวหินครั้งนี้ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวรายงานความคืบหน้าของการพัฒนามาตรฐานสนามบิน เพื่อรองรับ International flights พร้อมรายงานถึงปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ
ทั้งนี้ในด้านมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบิน การขยายพื้นที่รันเวย์ที่จะต้องมีความยาวจากพื้นที่ปลอดภัย ความยาว 240 เมตร ต่อขยายจากพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งทั้ง 2 ด้านของหัวทางวิ่ง หรือไม่น้อยกว่า 90 เมตร การติดตั้งระบบช่วยชะลอความเร็ว และหยุดเครื่องบินที่วิ่งเลยออกนอกทางวิ่ง ในปัจจุบันท่าอากาศยานหัวหินยังไม่ได้มีการจัดพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง
ส่วนด้านการบริหารจัดการพื้นที่รองรับผู้โดยสารภายในเตรียมการอาคารพักผู้โดยสาร ปัจจุบันมีการปรับปรุงและประเมินระบบการตรวจกำหนดการเที่ยวบิน เพื่อให้ความสะดวกรวดเร็วแก่นักท่องเที่ยว ขณะที่ด้านการตรวจเอกสารผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ระบบ IT ที่ต้องลิงก์ระบบเชื่อมโยงกันให้ได้ทั้งหมด การคัดกรองให้เกิดความรวดเร็วในการตรวจสอบ
ทั้งนี้ กรมท่าอากาศยานได้ดำเนินการศึกษาด้านการบิน (Aeronautical Study) เสร็จและนำส่งรายงานการศึกษาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 14 กันยายน 2566 โดยในปัจจุบันแผนการแก้ไขข้อบกพร่องและผลการศึกษาด้านการบิน (Aeronautical Study) ยังไม่ได้รับผลการพิจารณาแจ้งกลับมายังการท่าอากาศยานเพื่อจะดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องต่อไป
นายคารม กล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งการให้ดำเนินการเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น เพื่อให้ทันรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พร้อมกันนี้ นายกฯ ขอให้มีการบริหารจัดการเรื่องสายการบินจากเชียงใหม่มาหัวหิน ทั้งนี้ ในอนาคตคาดว่าจะมีสายการบินบินตรงจากหาดใหญ่มาหัวหิน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียเดินทางมาท่องเที่ยวได้สะดวกขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่ในประเทศไทยมากขึ้น จะเพิ่มการใช้จ่ายสร้างรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้นายกฯ ย้ำรัฐบาลตระหนักดีถึงศักยภาพของสนามบินหัวหิน แต่ยังไม่ได้ใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในแผนงานการขยาย Runway ให้กว้างขึ้น เพื่อรองรับเครื่องบินที่มาจากต่างประเทศด้วย
โดยจะมีการปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานการบิน นายกฯ ระบุจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่มีองค์ประกอบครบเป็นเมืองท่องเที่ยว มีประเพณีที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหาร สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ในอนาคตจะมีแนวคิดเปลี่ยนชื่อสนามบินเป็นสนามบินเพชรหัวหิน
สำหรับการตรวจเยี่ยมการพัฒนามาตรฐานท่าอากาศยานหัวหิน เพื่อรองรับ International flights รัฐบาลมีแผนจะขยายขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารจากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา (ททท.) จำนวนนักท่องเที่ยว ในปี 2565 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนักท่องเที่ยว 9.75 ล้านคน ในปี 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 11.14 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 1.4 ล้านคน
สะท้อนให้เห็นถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง โดยการพัฒนามาตรฐานท่าอากาศยาน เป็นส่วนสำคัญของรัฐบาล ซึ่งผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub) ในอนาคต