ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังงานสัมมนาส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมจีน (คุนหมิง) – ไทย ว่า มีการเสนอความร่วมมือเพิ่มเติมระหว่างกัน 3 ด้าน ประกอบด้วย
ทั้งนี้ ประเทศไทยและประเทศจีนมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและมั่นคง ความสัมพันธ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงด้านวัฒนธรรม การศึกษา และการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีด้วย
"งานสัมมนาดังกล่าวเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือที่มีอยู่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเป็นเวทีในการพัฒนาอุตสาหกรรมในระดับจังหวัดร่วมกัน ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและจีนต่างต้องเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การแข่งขันในตลาดโลก และสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน ความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างเราจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ"
ทั้งนี้ คุนหมิงมีความได้เปรียบในทำเลที่ตั้งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของ สามวง ตัดกัน ได้แก่ วงการค้าเสรีอาเซียน วงความร่วมมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และวงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล ด้วยการพัฒนาของความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน
และการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟจีน-ลาว-ไทย (รางมาตรฐาน) ข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง ศูนย์กลางของภูมิภาค และการเปิดกว้างมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ประเทศไทยตั้งอยู่ในใจกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ที่สำคัญ รัฐบาลจะทำงานร่วมกับคุนหมิงเพื่อเสริมสร้างการประสานงานด้านนโยบายและการลงทุนด้านทรัพยากร ส่งเสริม การเชื่อมต่อของโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งข้ามพรมแดนและการเชื่อมต่อโครงข่ายเหล่านี้สามารถส่งเสริมการค้าที่ไร้อุปสรรค การบูรณาการทางการเงิน และการไปมาหาสู่กันของประชาชน ซึ่งจะเสริมแรงผลักดันใหม่ให้กับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย