"กนอ." ชู "Investment Connect" หนุน RCEP เปิดประตูการค้าเชื่อมไทยฮับลงทุนโลก

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยในการกล่าวสุนทรพจน์งาน RCEP Business Opportunities Matchmaking (จีน-ไทย) ถึงโอกาสทางการค้าและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นมา ว่า 

จะส่งผลให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมที่เกิดการขยายตัวและมีการส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิก RCEP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และประเทศในอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนโดยรวม

ทั้งนี้ กนอ.มีบทบาทสำคัญในการจัดหาและพัฒนาพื้นที่พร้อมระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการประกอบกิจการในรูปแบบของนิคมอุตสาหกรรม

โดย กนอ. จะเป็น Investment Connect เชื่อมโยงการลงทุนจากทั่วโลกสู่ประเทศไทย มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและการประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืน

สำหรับประเทศจีนซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ภายใต้กรอบความร่วมมือ RCEP จะทำให้ผู้ประกอบการจีนและผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์และโอกาสในการขยายตัวของภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี องค์ความรู้ และการขยายตลาด 

"งาน RCEP Business Opportunities Matchmaking ในการส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างสองประเทศครั้งนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่จะได้จับคู่ธุรกิจและการขยายเครือข่าย"
 

นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนของโลก กนอ.จะสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับในการลงทุนและขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดย RCEP ไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสทางการตลาดและศักยภาพทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก

แต่ยังช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน เชื่อมโลก เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และความยั่งยืน Now Thailand