“ภูมิธรรม” ถกญี่ปุ่น ชวนลงทุนแลนด์บริดจ์ - EEC หนุนขยายการลงอุตฯยานยนต์

11 ก.ค. 2567 | 09:29 น.
อัพเดตล่าสุด :11 ก.ค. 2567 | 09:36 น.

“ภูมิธรรม” เผยผลหารือ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ชวนลงทุนแลนด์บริดจ์ เน้นอุตสาหกรรมอนาคต ยานยนต์สมัยใหม่ พลังงานสะอาด หนุนขยายการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาป และ รถอีวี เขตพื้นที่ EEC

วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายโคมูระ มาซาฮิโระ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ว่า ญี่ปุ่นถือเป็นนักลงทุนอันดับ 1 ของไทย มีบริษัทญี่ปุ่นลงทุนในไทยเกือบ 6,000 ราย โดยในการพบกันครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุน แก้ปัญหาร่วมกัน โดยได้เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นร่วมลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) ของไทย ที่จะเป็นศูนย์กลางการค้าและการขนส่งที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลกในอนาคตที่จะเชื่อมโยงมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย

รวมทั้งเชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติมในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งที่เป็นยานยนต์สันดาปและยานยนต์สมัยใหม่ และลงทุนในพื้นที่ EEC สำหรับอุตสาหกรรมชั้นนำอื่น ๆ ที่ญี่ปุ่นมีศักยภาพ อาทิ เครื่องมือแพทย์ หุ่นยนต์ และพลังงานสะอาด อีกด้วย

นายภูมิธรรม เวชยชัย

“สำหรับภาคอุตสาหกรรมช่วงเปลี่ยนผ่านต้องมีแผนรองรับอย่างเหมาะสมให้เข้ากับกติกาโลกใหม่  เชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปรับตัวแล้ว ทั้งยานยนต์สันดาป และยานยนต์ไฟฟ้า ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และไทยมีความได้เปรียบด้านโลจิสติกส์ จะสามารถใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตได้” นายภูมิธรรม กล่าว

ทั้งนี้ ได้หารือด้านการท่องเที่ยวรัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการออกมาตราการอำนวยความสะดวกให้กับทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากหลายประเทศรวมถึงญี่ปุ่น โดยขยายเวลาให้สามารถพำนักในประเทศไทยได้จากเดิม 30 วัน เป็น 60 วัน ให้นักธุรกิจญี่ปุ่นมีเวลาในการเจรจาธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น มีเวลาเรียนรู้วัฒนธรรมร่วมกันมากขึ้น

“ภูมิธรรม” ถกญี่ปุ่น ชวนลงทุนแลนด์บริดจ์ - EEC หนุนขยายการลงอุตฯยานยนต์

นอกจากนี้ยังได้ขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจไทยในการเดินทางไปยังญี่ปุ่นเช่นกัน

 

ปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย โดยในช่วง 5 เดือนของปี 2567 (มกราคม – พฤษภาคม) มีมูลค่าการค้ารวม 21,431.4 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการส่งออกมูลค่า 9,678.9 ล้านดอลลาร์ และเป็นการนำเข้ามูลค่า 11,752.5 ล้านดอลลาร์

สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น

สินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากญี่ปุ่น ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น