นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า ภายในเดือนสิงหาคนี้จะเปิดลงทะเบียนกลุ่มร้านค้า สมาคมค้าปลีก-ค้าส่ง ตามด้วยกลุ่มซัพพลายเออร์ และร้านค้าทั่วไป โดยจะเริ่มโครงการในไตรมาส 4 ของปีนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม 2567) ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมด้านร้านค้าไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าภายใน เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนหน่วยงานอื่นที่เป็นเจ้าของฐานข้อมูลร้านค้า อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และได้ส่งฐานข้อมูลร้านค้าให้กับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. แล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น รวม 1,604,000 ร้านค้า
“กรณีมีการมองว่าการลงทะเบียนร้านค้า เป็นเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ ยืนยันว่าการดำเนินการไม่ได้เป็นเช่นนั้น จะเน้นร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งร้านค้าบุคคลธรรมดา ร้านธงฟ้า ร้านกองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน ร้านค้ารายย่อย ร้านค้าปลีกและร้านโชห่วยท้องถิ่น ร้านสหกรณ์ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน โอท็อป ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายของชำ มีสิทธิหมด รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก แต่ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น“
สำหรับรายละเอียดของร้านค้า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีนิติบุคคลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 910,000 ราย ซึ่งในนี้มีผู้ประกอบการธุรกิจอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย
ขณะที่กรมการค้าภายในดูแล มีร้านค้า (โชห่วย) หาบเร่ แผงลอย ร้านค้าอาหาร ร้านค้าตลาดนัด ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ประมาณ 400,000 แห่ง มีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประมาณ 93,000 แห่ง และห้างค้าส่งปลีก และร้านสะดวกซื้อ ที่สมาคมค้าปลีกไทยดูแล โดยดำเนินการผ่านกระทรวงพาณิชย์ 50,000 แห่ง
สำหรับรายการสินค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท ยกเว้นธุรกิจบริการและสินค้า 18 กลุ่ม ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ได้แก่
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สามารถพิจารณาปรับปรุงรายการสินค้าหากเห็นว่ามีความจำเป็น โดยเฉพาะสินค้าบางชนิด ที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือใช้สร้างอาชีพ