“ทอท.” เข็น 3 โปรเจ็กต์ สนามบินสุวรรณภูมิ ชงครม.เคาะ 1.5 แสนล้าน
“ทอท.” รื้อแผนลงทุน 3 เมกะโปรเจ็กต์ อัพเกรดสนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท นำร่องประมูลอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก-ใต้-รันเวย์ 4 เร่งจัดแผนแม่บทฉบับใหม่ ดันปริมาณผู้โดยสารพุ่ง 150 ล้านคนต่อปี
ปัจจุบัน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท.ได้เร่งรัดปรับแผนแม่บทพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิฉบับใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 150 ล้านคนต่อปี จากแผนเดิมที่สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้เพียง 90 ล้านคนต่อปี
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Expansion) ของสนามบินสุวรรณภูมิ วงเงินลงทุนประมาณ 120,000 ล้านบาท ปัจจุบันทอท.อยู่ระหว่างการทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาศักยภาพขยายขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิในระยะ 10 ปี (ปี 2567-2577) คาดว่าดำเนินการแล้วเสร็จในภายเดือนกุมภาพันธ์ 2568
ทั้งนี้หากทอท.ดำเนินการจัดทำแผนแม่บทแล้วเสร็จ จะเริ่มดำเนินการออกแบบรายละเอียดและความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ ใช้เวลาในการออกแบบรายละเอียดประมาณ 1 ปี 2 เดือน หรือประมาณ 14 เดือน และเข้าสู่กระบวนการเพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นจะเปิดประมูลหาผู้รับเหมาภายในต้นปี 2570 และเริ่มก่อสร้าง โดยใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปีครึ่ง ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2574
ขณะเดียวกันทอท.ยังมีโครงการก่อสร้างทางวิ่ง(รันเวย์) เส้นที่ 4 วงเงินลงทุน 20,000 ล้านบาท ซึ่งใช้เวลาในการออกแบบและความเหมาะสมของโครงการฯ ประมาณ 10 เดือน หลังจากนั้นจะขอรับจัดสรรงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะเปิดประมูลหาผู้รับจ้างและก่อสร้างได้ภายในปี 2570 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2573
“โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ ถือเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากในปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิ ประสบปัญหาความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารหลัก ( Main Terminal) ซึ่งมีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับที่จอดรถรับ-ส่งผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าอาคาร เพราะพื้นที่ยาวแค่ 400 เมตร” นายกีรติ กล่าว
นายกีรติ กล่าวต่อว่า เมื่ออาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้เปิดให้บริการแล้วจะช่วยเพิ่มพื้นที่จอดรถรับ-ส่งด้านหน้าอาคาร มีพื้นที่เพิ่มขึ้นประมาณ 2 กิโลเมตร (กม.) โดยเป็นการก่อสร้างในรูปแบบตัว U ทำให้รถที่มารับ-ส่ง สามารถกระจายจุดจอดรถได้สะดวกมากขึ้น
ขณะเดียวกันพื้นที่บริวณตรงกลางตัว U จะมีการพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์อีกด้วย เช่น ห้างสรรพสินค้า ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เดินทางมาถึงสนามบินได้เร็ว โดยไม่จำเป็นต้องไปรอที่อาคารผู้โดยสารทันทีสามารถเดินพักผ่อนได้ ทั้งนี้เมื่ออาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้แล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 80 ล้านคนต่อปี
ด้านความคืบหน้าโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศตะวันออก (Eest Expansion) วงเงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท นั้น ปัจจุบันได้ดำเนินการออกแบบรายละเอียดและความเหมาะสมของโครงการฯแล้วเสร็จ ขณะนี้โครงการฯอยู่ในขั้นตอนเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ทอท.พิจารณา ภายในเดือนกันยายนนี้ หลังจากนั้นจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลภายในเดือนธันวาคม 2567
นายกีรติ กล่าวต่อว่า ส่วนการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศตะวันตก (West Expansion) นั้นต้องทบทวนแผนแม่บทให้เสร็จก่อนจากนั้นจะเริ่มออกแบบรายละเอียดและความเหมาะสมของโครงการฯ ซึ่งตามแผนจะดำเนินการเช่นเดียวกับอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้
นอกจากนี้การพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิตามนโยบายรัฐบาลชุดนี้ได้จัดลำดับความสำคัญใหม่ ดังนี้ 1.โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศตะวันออก (Eest Expansion) 2.โครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศตะวันตก (West Expansion) 3.โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Expansion) และ4.โครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารทางด้านทิศเหนือ (North Expansion)
“จากการจัดลำดับความสำคัญดังกล่าว ทำให้ทอท.ต้องทบทวนปรับแผนแม่บทใหม่ให้สอดรับกับนโยบายนี้ โดยตั้งเป้าการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ 150 ล้านคนต่อปี ส่งผลให้โครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารทางด้านทิศเหนือ (North Expansion) จะเป็นโครงการสุดท้ายที่ทอท.ดำเนินการ เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วน หากนำโครงการฯนี้มาก่อสร้างก่อนจะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้เพียง 90 ล้านคนต่อปีเท่านั้น” นายกีรติ กล่าว
อย่างไรก็ตามหากโครงการลงทุนต่างๆแล้วเสร็จจะช่วยผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ซึ่งมีเป้าหมายติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,022 วันที่ 29 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2567