เปิดนโยบายรัฐบาล "แพทองธาร ชินวัตร" แถลงต่อรัฐสภา 12 ก.ย. นี้

มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) นัดพิเศษวันที่ 7 กันยายน 2567 เห็นชอบ คำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ต่อรัฐสภาที่จะแถลงวันที่ 12 กันยายน 2567 ซึ่งจะมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-สังคม พร้อมวางรากฐานอนาคตประเทศ

โดยรายละเอียดคำแถลงของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 จะเน้นย้ำถึงความท้าทายที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ 

ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง พร้อมประกาศนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อ เพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างโอกาสให้กับประชาชน

นโยบายเร่งด่วนที่สำคัญ ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ การส่งเสริมและปกป้อง SMEs การลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค การนำเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบภาษี การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต การยกระดับเกษตรกรรมสู่เกษตรทันสมัย การส่งเสริมการท่องเที่ยว การแก้ปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม รวมถึงการจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง
 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนต่อยอดการพัฒนาภาคการผลิตและบริการ โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสุขภาพ พร้อมทั้งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านการวิจัย คมนาคม และเทคโนโลยีดิจิทัล

คำแถลงของนายกฯ แพทองธาร ยังเน้นย้ำถึงการพัฒนาทุนมนุษย์ การส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการปฏิรูปการเมืองและระบบราชการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ส่วนในด้านการต่างประเทศ รัฐบาลจะยึดจุดยืนไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ พร้อมเดินหน้านโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกและสร้าง Soft Power

ท้ายที่สุด นายกฯ ยืนยันว่าจะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม และนำพาความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทยและประเทศไทย

 

สรุปคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา วันที่ 12 กันยายน 2567

 

สถานการณ์และความท้าทายของประเทศ

• เศรษฐกิจเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ ปัญหาหนี้สินเรื้อรัง ความเหลื่อมล้ำรุนแรง
• สังคมสูงวัย คุณภาพแรงงานต่ำ เด็กหลุดจากระบบการศึกษา ปัญหาสุขภาพจิต
• ยาเสพติดระบาด อาชญากรรมออนไลน์เพิ่มขึ้น
• SMEs ประสบปัญหาสภาพคล่อง ปรับตัวไม่ทันเทคโนโลยี
• ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษทางอากาศ
• ความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ความขัดแย้งแบ่งขั้วรุนแรง
• ความท้าทายจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนแปลง

นโยบายเร่งด่วน

2.1 ด้านเศรษฐกิจ

• ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะสินเชื่อบ้านและรถ
• ส่งเสริมและปกป้องผลประโยชน์ SMEs
• ลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค
• นำเศรษฐกิจนอกระบบและใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี
• กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
• ยกระดับเกษตรแบบดั้งเดิมสู่เกษตรทันสมัย เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
• ส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่

2.2 ด้านสังคม

• แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร
• แก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ และอาชญากรรมข้ามชาติ
• พัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคมให้กลุ่มเปราะบาง

นโยบายระยะกลางและระยะยาว

3.1 การพัฒนาเศรษฐกิจ

• ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
• ยกระดับภูมิปัญญาไทยสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ ส่งเสริม Soft Power
• ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว พลังงานสะอาด
• พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลสมัยใหม่
• มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการเงินของโลก
• พัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพและบริการทางการแพทย์

3.2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

• ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่
• พัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่มีคุณภาพ
• พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
• ปฏิรูประบบภาษี

3.3 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

• ส่งเสริมการเกิดและพัฒนาเด็กอย่างมีคุณภาพ
• ยกระดับระบบการศึกษาให้ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ตลาดแรงงาน
• ยกระดับทักษะแรงงานให้ตรงความต้องการ
• พัฒนาระบบสาธารณสุขสู่ "30 บาทรักษาทุกที่"
• ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ

3.4 การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

• ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ
• ยกระดับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ
• มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

3.5 การพัฒนาการเมืองและการบริหารราชการ

• จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
• ยึดมั่นหลักนิติธรรมและความโปร่งใส
• ปฏิรูประบบราชการและกองทัพ
• ยกระดับการบริการภาครัฐให้ตอบสนองประชาชน

3.6 ด้านการต่างประเทศ

• รักษาจุดยืนไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ
• ส่งเสริมการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกและการสร้าง Soft Power
• เร่งเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าสำคัญ

รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ และบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียม ความภาคภูมิใจ และอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศไทยและคนไทยทุกคน