"เอกนัฏ" ตั้งกรรมการปรับปรุงกฎหมาย รื้อ กม. 14 ฉบับ มุ่ง "ปฏิรูปอุตสาหกรรม"

19 ก.ย. 2567 | 00:19 น.

"เอกนัฏ" ตั้งกรรมการปรับปรุงกฎหมาย รื้อ กม. 14 ฉบับ มุ่ง "ปฏิรูปอุตสาหกรรม" เผยดึงอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นประธาน หวังแก้ปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมและการจัดการกากพิษที่ไม่ถูกต้องให้หมดไป

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม โดยมีนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นประธาน 

และกรรมการประกอบด้วยข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาและกระทรวงการคลัง รวมกรรมการ 11 คน เพรามีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงกฎหมายของกระทรวงอุตสาหกรรมทั้ง 14 ฉบับให้มีประสิทธิภาพ 
 

สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน และนำไปสู่การจัดตั้งกองทุนเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม ที่จะมีเงินสบทบหลักจากผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ที่กระทำความผิด เพื่อรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันจะนำเงินกองทุนสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กให้แข่งขันได้ 

"เอกนัฏ" ตั้งกรรมการปรับปรุงกฎหมาย รื้อ กม. 14 ฉบับ มุ่ง "ปฏิรูปอุตสาหกรรม"

"กรอบเวลาจะดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องให้คณะกรรมการได้มีเวลาทำงาน แต่ก็จะติดตามความคืบหน้าทุกวัน เบื้องต้นกฎหมายกรมโรงงานที่อยู่ระหว่างปรับปรุง มีประเด็นการเพิ่มโทษ เพิ่มค่าปรับไปสู่ระดับเหมาะสม ไม่ใช่หลักแสนบาทอย่างในปัจจุบัน"

อย่างไรก็ดี กฎหมายดังกล่าวนี้ก็จะนำมาพิจารณาภายใต้คณะกรรมการชุดนี้ด้วย โดยยืนยันจะไม่เพิ่มภาระผู้ประกอบการที่ทำดี แต่จะเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการที่ทำผิด ให้เกรงใจกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและสิ่งแวดล้อม
 

นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่า เป้าหมายการปฏิรูปอุตสาหกรรมครั้งดังกล่าวนี้ เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมและการจัดการกากพิษที่ไม่ถูกต้องให้หมดไป ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งสแกนพื้นที่เสี่ยงมีการลักลอบทิ้งกากทั้งหมดเพื่อป้องกันและเอาผิดผู้กระทำผิด ไม่ต้องเกรงใจผู้มีอิทธิพลใดๆ 

ส่วนกรณีปัญหาลักลอบทิ้งในจังหวัดระยอง จะเร่งของบกลางเพื่อเข้าแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน นี่เป็นสาเหตุที่ต้องปรับปรุงกฎหมาย เพราะเมื่อเกิดปัญหากระทรวงไม่มีวงเงินเข้าจัดการ การตั้งกองทุนจึงจำเป็น เพื่อไม่ต้องรบกวนงบกลางเข้าแก้ไข