“คนไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ตั้งคำถามหลังจาก “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ” ทำการโอนแจกเงิน 10,000 บาท ให้ผู้มีสิทธิ์เป็นกลุ่มเปราะบาง จำนวน 14.55 ล้านคน โดยแบ่งเป็น
โดยจะแจกเป็นเงินสด จำนวน 10,000 บาท โอนเข้าบัญชีผ่านช่องทางที่กำหนด ทั้งระบบพร้อมเพย์ผ่านหมายเลขบัตรประชาชน หรือบัญชีเงินฝากที่แจ้งความประสงค์ไว้ หรือช่องทางการรับเงินเบี้ยคนพิการ ตามที่ได้รับข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ โดย กรมบัญชีกลาง กำหนดโอนเงินในวันที่ 25 - 27 และ 30 กันยายนนี้
จนทำให้เกิดคำถามตามมาว่า แล้วประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่ได้เป็นคนพิการ จะมีโอกาสได้รับแจกเงินสด 10,000 บาท หรือไม่
เหมือนก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลมี โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต แต่ถูกพับโครงการ
ล่าสุดวันที่ 25 ก.ย. 67 “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” เปิดงาน (Kick Off) โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า
“รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงยังคงเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต(Digital Wallet) เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้ประชาชนมีดิจิทัลไอดี (Digital ID) เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างรัฐบาลและประชาชน ทำให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ กับหน่วยงานรัฐสะดวกขึ้น โปร่งใสตรวจสอบได้ เช่น การให้เงินช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ การชำระค่าไฟ เป็นต้น ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารและตรวจสอบข้อมูลได้ที่ทุกช่องทางของกระทรวงการคลัง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งหมดเพื่อเป้าหมายสำคัญ คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่จะเอื้อให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง มีรอยยิ้ม สร้างความเท่าเทียมทางโอกาส เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาดีอีกครั้ง
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้ที่ลงทะเบียนโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ยืนยันว่าจะได้รับอย่างแน่นอน รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการในรูปแบบดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งจะมีประชาชนที่ต้องดูแลเหลือประมาณ 26 ล้านคน โดยตัดความซ้ำซ้อนจากกลุ่มเปราะบางที่เข้ามาลงทะเบียนแล้วได้รับสิทธิไปแล้ว
“การคัดกรองประชาชนที่มาลงทะเบียน 36 ล้านคน เราต้องตรวจคุณสมบัติว่ามีสิทธิเท่าใด และจากการตรวจสอบพบว่ามีความซ้ำซ้อนจากสิทธิที่ได้รับในกลุ่มเปราะบาง 10 ล้านคน ส่วนกลุ่มเปราะบางที่เหลืออีก 4 ล้านคน ก็สันนิษฐานได้ว่า เป็นกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนด้วย ฉะนั้น จะเหลือประชาชนที่ต้องดูแลอีกประมาณ 26 ล้านคนบวกลบ”
ขณะที่ความคืบหน้าการเดินหน้าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เฟส 2 นั้น รมช.คลัง กล่าวว่า จะต้องรอความชัดเจนจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนจะจ่ายเงิน 10,000 บาท หรือ 5,000 บาท จะต้องดูความเหมาะสม เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายมิติ
“ถ้าตัวเลขมีความแตกต่างไม่มาก เราก็มีความสามารถในการบริหารงบประมาณที่จะดำเนินการได้ในครั้งเดียว แต่หากตัวเลขเยอะ และต้องเร่งเครื่องทางการคลัง เช่น ขาดงบประมาณ 1 แสนล้านบาท แล้วต้องเติมด้วยการใช้งบกลาง เราก็จะไม่ทำ เพราะต้องใช้ในภารกิจอื่น จะต้องดำเนินการเป็นเฟส”