เงิน 10,000 รอบ 2 ล่าสุด อัพเดทไทม์ไลน์แจกเงินกลุ่มตกหล่น 3.8 แสนราย เช็คเลย

21 ต.ค. 2567 | 05:12 น.

เงิน 10,000 รอบ 2 ล่าสุด อัพเดทไทม์ไลน์แจกเงินกลุ่มตกหล่น 3.8 แสนราย อย่าลืมต่อบัตรใหม่ ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน เช็คเลย

เงิน 10,000 รอบ 2 ล่าสุด วันนี้ 21 ตุลาคม 2567 เป็นวันแรกที่ กรมบัญชีกลาง โอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน และ คนพิการ สำหรับกลุ่มตกหล่นรอบ 2 จำนวน 3.8 แสนราย

รอบที่ 1: 

  • วันที่ 21 ตุลาคม 2567 ต้องทำบัตรหรือต่อบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 และผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนหรือแก้ไขบัญชี ภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2567

 

รอบที่ 2: 

  •  วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ต้องทำบัตรหรือต่อบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 และผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนหรือแก้ไขบัญชี ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567

รอบที่ 3: 

  • วันที่ 19 ธันวาคม 2567 ต้องทำบัตรหรือต่อบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนหรือแก้ไขบัญชี ภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567

กรมบัญชีกลาง ยังมีช่องทางตรวจสอบสิทธิ์เพิ่มเติมดังนี้

  •  หากผู้มีสิทธิทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่กำหนด จะสามารถตรวจสอบสิทธิผ่านเว็บไซต์ https://xn--2567-4doaav1an0gvcuc4hcbc3gua9kpb5czewjlb2p.cgd.go.th/
  • ได้ในวันที่ 17 ตุลาคม 2567 19 พฤศจิกายน 2567 และวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ

เงิน 10,000 รอบ 2 ล่าสุด อัพเดทไทม์ไลน์แจกเงินกลุ่มตกหล่น 3.8 แสนราย เช็คเลย

 

 

ช่องทางการติดต่อ:

1. ตรวจสอบสิทธิและผลการโอนเงิน: เว็บไซต์ https://xn--2567-4doaav1an0gvcuc4hcbc3gua9kpb5czewjlb2p.cgd.go.th/ (ตรวจสอบผลการโอนเงินได้ในวันถัดไป หลังจากวันที่จ่ายเงิน)

2. สอบถามข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ: ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข  0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

3. สอบถามข้อมูลคนพิการ: ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

4. สอบถามข้อมูลบุคคลล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์: กรมบังคับคดี โทรศัพท์หมายเลข 0 2881 4999 หรือสายด่วน 1111 กด 79.

ที่มา: กระทรวงการคลัง