สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) แจ้งว่า สำนักงาน ก.พ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหารในหรือต่างกระทรวงหรือกรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเกี่ยวกับ "การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง" ต้องเป็นการดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม ลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดในการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสม
รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการแต่งตั้งให้เกิดขึ้นในระบบราชการ โดยมีคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย ผู้บริหาร และผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภายในและภายนอกส่วนราชการ
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถพิจารณาความเหมาะสมของบุคคล ได้อย่างรอบคอบ ทั้งศักยภาพ ผลสัมฤทธิ์ของงาน สมรรถนะ ประวัติการรับราชการ ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญ
รวมถึงพฤติกรรมทางจริยธรรมและความประพฤติ ตลอดจนประโยชน์ของทางราชการ
ร่างกฎ ก.พ. ฉบับนี้ ก.พ. ได้วางหลักการของการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่ง ไว้ 5 ประการ ดังนี้
1. หลักการบริหารราชการแผ่นดิน โดยบทบาทการกำหนดนโยบายเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีหรือข้าราชการการเมือง และบทบาทในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติเป็นอำนาจของฝ่ายปกครองหรือข้าราชการประจำ
2. หลักการตามระบบคุณธรรม โดยคำนึงถึงความรู้ความสามารถของบุคคล ความเสมอภาค ความเป็นธรรม ประโยชน์ของทางราชการ ผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพขององค์กรและลักษณะของงาน โดยไม่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งการบริหารทรัพยากรบุคคลต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง ทั้งนี้ เพื่อสนองตอบต่อภารกิจของรัฐที่จัดระบบราชการเพื่อสนองความต้องการของประชาชน
3. หลักความโปร่งใสในกระบวนการแต่งตั้ง กำหนดรูปแบบการสรรหา และคัดเลือกโดยใช้ระบบคณะกรรมการที่ อ.ก.พ. กระทรวง แต่งตั้ง สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น และระดับสูง ซึ่งรับเงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท โดยคณะกรรมการคัดเลือก ประกอบด้วยบุคคลภายในและภายนอกส่วนราชการ รวมทั้งกำหนดให้มีการประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคัดเลือกให้ทราบโดยทั่วกัน
4. หลักการบริหารงานบุคคลในการเตรียมข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร โดยการเตรียมกำลังคนตามเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพเป็นการเตรียมผู้ที่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้บริหาร
5. หลักการบริหารงานบุคคลในส่วนราชการ โดยสร้างระบบการบริหารงานบุคคลที่เหมาะสมกับแต่ละส่วนราชการ และสอดคล้องกับเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพที่ยึดโยงกับความรู้ในงาน ทักษะ สมรรถนะ และผลการปฏิบัติงาน
ดังนั้น การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญในหรือต่างกระทรวงหรือกรมสำหรับตำแหน่งประเภทบริหาร ซึ่งออกตามความในตามมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 จึงสอดคล้องกับหลักการข้างต้น โดยมีประเด็นสำคัญสรุปได้ ดังนี้
ส่วนแรก : กำหนดช่วงเวลาการบังคับใช้กฎ ก.พ. เมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และกำหนดกับคำนิยามเกี่ยวกับการย้าย การโอน และการเลื่อน
หมวด 1 บททั่วไป : กำหนดหลักการของการแต่งตั้ง โดยกำหนดกรอบการใช้ดุลพินิจในการแต่งตั้ง กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้ง กำหนดเรื่องการยินยอมของข้าราชการในการแต่งตั้งบางกรณี รวมทั้งการจัดกลุ่มตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าว
หมวด 2 การย้าย : กำหนดกรณีการย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น และระดับสูง โดยวางหลักการไว้ใน 2 กรณี ได้แก่
กรณีที่ 1 : เป็นกรณีที่อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ที่จะพิจารณาย้ายได้ โดยเป็นกรณีการย้ายในประเภทและระดับเดียวกัน และการย้าย กรณีที่ผู้นั้นเคยดำรงตำแหน่งประเภทและระดับนั้น ๆ มาแล้ว เช่น การย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ในสายงานเดียวกัน
หรือการย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ในสายงานบริหาร ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ในสายงานอื่นที่มิใช่สายงานบริหาร หรือการย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ซึ่งรับเงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ซึ่งรับเงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท
รวมทั้งกรณีการย้ายจากต่างประเภทตำแหน่งมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร เช่น การย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ในสายงานอื่นที่มิใช่สายงานบริหาร
กรณีที่ 2 : เป็นกรณีที่ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนดก่อนแล้วผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 จึงจะดำเนินการย้ายได้ เช่น การย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ในสายงานอื่นที่มิใช่สายงานบริหาร ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ในสายงานบริหาร ซึ่งต้องดำเนินการโดยกำหนดให้มีคณะกรรมการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจากข้าราชการพลเรือนสามัญที่มีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะ
สำหรับตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น และสมัครเข้ารับการคัดเลือก การย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับต้น ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้นในสายงานอื่นที่มิใช่สายงานบริหาร การย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงรับเงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง รับเงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท ซึ่งต้องดำเนินการโดยกำหนดให้มีคณะกรรมการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจากรายชื่อที่ส่วนราชการเสนอมา
หมวด 3 การโอน : กำหนดกรณีการโอนตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น และระดับสูง โดยวางหลักการ ไว้ใน 2 กรณี เช่นเดียวกับการย้าย โดยแบ่งเป็นกรณีที่อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอำนาจสั่งบรรจุของส่วนราชการที่จะรับโอนที่จะพิจารณารับโอนได้ และกรณีที่ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่ ก.พ. กำหนดก่อนแล้วผู้มีอำนาจสั่งบรรจุของส่วนราชการที่จะรับโอนจึงจะดำเนินการรับโอนได้
ทั้งนี้ ได้วางหลักการในการโอน โดยให้กระทำได้เมื่อผู้มีอำนาจสั่งบรรจุทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตกลงยินยอมการโอนนั้นแล้ว เว้นแต่ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุเป็นบุคคลคนเดียวกัน
หมวด 4 การเลื่อน : กำหนดกรณีการเลื่อน โดยให้เลื่อนจากตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้นขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เฉพาะตำแหน่งที่รับเงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท และให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่ ก.พ. กำหนด โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจากรายชื่อที่ส่วนราชการเสนอมา
บทเฉพาะกาล : กำหนดการดำเนินการเกี่ยวกับย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนดไว้เดิม ที่ยังไม่แล้วเสร็จ และกฎ ก.พ. ฉบับนี้ประกาศใช้แล้ว โดยให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จ
รวมถึงในระหว่างที่ยังไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามกฎ ก.พ. นี้ ให้นำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ใช้อยู่เดิมก่อนกฎ ก.พ. นี้ใช้บังคับ มาปฏิบัติไปพลางก่อน และการกำหนดให้นำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าตามที่ ก.พ. กำหนดไว้เดิม ก่อนที่กฎ ก.พ. ฉบับนี้มีผลใช้บังคับ มาใช้จนกว่า ก.พ. จะกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ใหม่
รวมทั้งกำหนดบทเฉพาะกาลกรณีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า มีผลใช้บังคับ