นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนกิจการ Data Center 2 โครงการใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 60,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
สำหรับโครงการ Data Center ของบริษัท ควอตซ์ คอมพิวติ้ง ในเครือ Alphabet Inc. (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google เป็นการลงทุนตามแผนธุรกิจที่ Google ได้ประกาศระหว่างการพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ว่าจะสร้าง Data Center และ Cloud Region แห่งใหม่ในประเทศไทย ด้วยมูลค่าเงินลงทุนเฟสแรก 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะเป็นศูนย์ Data Center แห่งที่ 5 ในเอเชียของ Google ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีแผนเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2570
ส่วนโครงการ Data Center ของบริษัท ดิจิทัลแลนด์ เซอร์วิสเซส ในเครือ GDS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Data Center ระดับโลก ที่ให้บริการทั้งในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยโครงการใหม่ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีแผนเปิดให้บริการในปี 2569
อย่างไรก็ดี ทั้งสองโครงการจะเป็น Data Center ขนาดใหญ่ระดับ Hyperscale ที่มีขีดความสามารถในการประมวลผลสูง และสามารถรองรับการขยายตัวของการใช้บริการ Cloud Services ทั้งจากผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอัตราการใช้บริการออนไลน์และการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลในสัดส่วนที่สูง
รวมถึงมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G, Cloud Computing, Internet of Things (IoT) และ AI เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร โดยไทยยังสามารถเป็นฐานในการให้บริการ Data Center แก่ประเทศอื่น เนื่องจากอยู่ในทำเลที่ตั้งที่สะดวกต่อการเชื่อมต่อกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
กระแสการลงทุนในกิจการ Data Center ในประเทศไทยยังมีอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจลงทุน Data Center ขนาดใหญ่ของบริษัทระดับโลกทั้งสองโครงการนี้ เป็นการตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศ รองรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลของทั้งภาคธุรกิจและองค์กรภาครัฐ อีกทั้งยังช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Digital Innovation Hub ของภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีโครงการลงทุนในกิจการ Data Center และ Cloud Service ได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 47 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 173,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนจากบริษัทรายใหญ่ทั้งสัญชาติอเมริกัน ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินเดีย และไทย
นายนฤตม์ กล่าวอีกว่า บอร์ดบีโอไอยังได้อนุมัติให้การส่งเสริมลงทุนโครงการผลิตวัตถุดิบตั้งต้นสำคัญของแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) อย่าง Prepreg และ Copper Clad Laminate (CCL) มูลค่าลงทุน 6,150 ล้านบาท ของบริษัท เฉิงยี่ เทคโนโลยี โดยเป็นผู้ผลิตอันดับ 2 ของโลก ซึ่งตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทย เพราะมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม PCB ในประเทศไทย โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้ผลิต PCB รายใหญ่ เช่น KCE, APEX, MFLEX เป็นต้น
"การลงทุนของเฉิงยี่ เป็นข้อต่อสำคัญในการสร้างซัพพลายเชนของอุตสาหกรรม PCB ที่กำลังจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย โดยโครงการนี้จะตั้งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และจะมีการจ้างงานบุคลากรไทยกว่า 200 คน"