สรส. บุกทำเนียบยื่นนายกฯ 5 ข้อ จี้ มท.-กรมที่ดิน เพิกถอนที่ดินเขากระโดง

26 พ.ย. 2567 | 09:11 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ย. 2567 | 09:19 น.

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ 5 ข้อ ขอหยุดแปรรูปรัฐวิสาหกิจ จี้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ “เขากระโดง” หลังพบกลุ่มทุน-นักการเมืองครอบครองที่ดินรัฐอย่างไม่ชอบธรรม

วันนี้ (26พ.ย.67) สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) นำโดย นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์ฯ เดินทางไปยังประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

เรียกร้องให้ยกเลิกนโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบ พร้อมทั้งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์บริเวณ เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีนายทุนและนักการเมืองครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อย่างไม่ชอบธรรม

สรส. บุกทำเนียบยื่นนายกฯ 5 ข้อ จี้ มท.-กรมที่ดิน เพิกถอนที่ดินเขากระโดง

ปัญหาการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ

ปัจจุบัน รัฐวิสาหกิจทั้งหมด 52 แห่ง มีทรัพย์สินรวมประมาณ 18.4 ล้านล้านบาท และรายได้นำส่งรัฐปี 2567 รวม 175,000 ล้านบาท โดยมีพนักงานกว่า 214,860 คน แต่แนวนโยบายปัจจุบันกำลังผลักดันให้รัฐวิสาหกิจแข่งขันเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงบริการที่มีราคาถูกและเป็นธรรม
 

สรส. ระบุว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นการ เปลี่ยนเจตนารมณ์ดั้งเดิม ซึ่งเน้นการให้บริการเพื่อสาธารณประโยชน์ตามพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 5 ไปสู่การแสวงหากำไรเพื่อตอบสนองกลไกตลาด นโยบายดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้นักการเมืองและกลุ่มทุนแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน ส่งผลให้รัฐวิสาหกิจเผชิญวิกฤตและลดบทบาทลง

สรส. บุกทำเนียบยื่นนายกฯ 5 ข้อ จี้ มท.-กรมที่ดิน เพิกถอนที่ดินเขากระโดง


จี้เพิกถอนที่ดิน "เขากระโดง"

หนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญของ สรส. คือการให้ กระทรวงมหาดไทย และ กรมที่ดิน เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบในพื้นที่ เขากระโดง ซึ่งเดิมเป็นที่ดินของการรถไฟฯ แต่กลับถูกครอบครองโดยกลุ่มนายทุนและนักการเมือง โดยที่ดินบางส่วนยังมีปัญหาหนี้สินคงค้างกว่า 288,000 ล้านบาทที่ยังไม่ได้ชำระคืนแก่การรถไฟฯ

ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล

สรส. ได้เสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจและทรัพย์สินของรัฐ ดังนี้:

  1. ยุติการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ขอให้รัฐบาลทบทวนภารกิจด้านบริการสาธารณะ และคืนบทบาทให้รัฐวิสาหกิจเป็นเครื่องมือพัฒนาประเทศ
  2. หยุดร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกมองว่าเอื้อต่อการแปรรูปกิจการของการรถไฟฯ แทนการพัฒนาระบบขนส่งทางรางอย่างยั่งยืน
  3. แก้ปัญหาพลังงานไฟฟ้า รัฐต้องบริหารการผลิตไฟฟ้าให้เหมาะสม ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผลิตไฟฟ้าหลักอย่างน้อย 70% ของแผนการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด
  4. ปกป้องกิจการโคนมไทย-เดนมาร์ก หยุดการนำสัญลักษณ์แบรนด์ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ไปให้เอกชนหาประโยชน์ พร้อมส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอย่างโปร่งใส
  5. ยุติการขยายสัมปทานทางด่วน ขอให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นกลไกหลักในการบริหารจัดการเส้นทาง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการในราคาที่เป็นธรรม

สรส. บุกทำเนียบยื่นนายกฯ 5 ข้อ จี้ มท.-กรมที่ดิน เพิกถอนที่ดินเขากระโดง


ความคาดหวังจากรัฐบาลใหม่

สรส. ย้ำว่า รัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งต้องยึดมั่นในผลประโยชน์สาธารณะ และบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจอย่างโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการที่จำเป็นและเป็นธรรม พร้อมกันนี้ต้องยุตินโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนและนักการเมือง

การยื่นหนังสือครั้งนี้จึงไม่เพียงเรียกร้องการแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้าง แต่ยังเป็นการส่งเสียงถึงรัฐบาลว่า รัฐวิสาหกิจไม่ใช่ธุรกิจของรัฐ แต่คือกลไกสำคัญเพื่อความมั่นคงของชาติและคุณภาพชีวิตของประชาชน