"สสว." ดัน "SMEs" พื้นที่อีอีซีสยายปีกตปท. ปั้๊มมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 33 ล้าน

02 ธ.ค. 2567 | 00:19 น.

"สสว." ดัน "SMEs" พื้นที่อีอีซีสยายปีกตปท. ปั้๊มมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 33 ล้าน มุ่งส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถ รวมถึงยกระดับนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดการลงทุนหรือสามารถก่อตั้งธุรกิจได้

นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการยกระดับศักยภาพการทำตลาดให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี (EEC) และพื้นที่ต่อเนื่อง ทั้งฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี  

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถ รวมถึงยกระดับนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดการลงทุนหรือสามารถก่อตั้งธุรกิจได้ โดยได้มีการจัดกิจกรรมการพัฒนาผู้ประกอบการในพื้นที่ที่สมัครเข้าร่วมโครงการมาตั้งแต่เดือนกันยายน

อย่างไรก็ดี ล่าสุดปีงบประมาณ 67 ได้ดำเนินการพา 24 ผู้ประกอบการไปจับคู่ธุรกิจ และจัดแสดงสินค้าที่ประเทศไต้หวัน  หวังเพิ่มโอกาสทางการค้าตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางการตลาดไม่น้อยกว่า 33 ล้านบาท
 

"กิจกรรมดังกล่าวเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมด้านทางการตลาด เปิดโอกาสขยายตลาดในต่างประเทศที่ไต้หวันให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย Business Matching กลุ่มท่องเที่ยว กิจกรรมแสดงสินค้าในงาน Taiwan Int’l Food Industry รวมทั้งเยี่ยมชมสถานประกอบการเอสเอ็มอีประเภทอาหารและของที่ระลึกของไต้หวัน”

"สสว." ดัน "SMEs" พื้นที่อีอีซีสยายปีกตปท. ปั้๊มมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 33 ล้าน

นางสาวปณิตา กล่าวต่อไปว่า การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการส่งเสริมและต่อยอดทางการค้าที่ไต้หวันให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งตลาดในกลุ่มดังกล่าวมีทัศนคติที่ดีกับประเทศไทย และชื่นชอบ หลายสินค้าของไทย เช่น ผลิตภัณฑ์ปรุงรสหรือน้ำจิ้มต่างๆ  ได้ส่งออกมาไต้หวันติดอันดับ Top 3 

รวมถึงสินค้าประเภทเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีแนวโน้มโอกาสทางตลาดที่ดี  โดยผู้ประกอบการที่มาร่วมกิจกรรมได้รับการพัฒนาและมีความพร้อมที่จะออกสู่ตลาดสากล สามารถนำเสนอสินค้าดีมีคุณภาพ บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจในดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานและถนอมอาหาร สามารถนำนวัตกรรมมาใช้ในการเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ได้ตอบโจทย์ตลาด 

นางพิกุล กิตติพล ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา จังหวัดระยองกล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ได้มาไต้หวัน เพื่อนำเสนอเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ชลบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา โดยที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากไต้หวัน เดินทางไปเที่ยวในประเทศไทยถึง 80 % 

นางกาญจนา เทพจันดา จากกลุ่มบ้านครูเล็กจันทบุรี เผยว่า สิ่งที่ดีจากกิจกรรมดังกล่าวคือ ได้พบกับผู้ประกอบการหลายภาคส่วนที่เข้ามาให้ความสำคัญกับเส้นทางการท่องเที่ยว ทำให้ได้รับประสบการณ์ทางด้านการประชาสัมพันธ์ รวมถึงด้านการทำงานเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการท่องเที่ยว และทำให้ได้ทราบว่ามีอะไรบ้างที่จะกลับไปเติมเต็มให้กับชุมชนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น