นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคเกษตรกร เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิต การตลาดปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พบว่า สถานการณ์ยังทรงตัว ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบเข้าสู่ระบบตามปกติ สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือ มีเพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ จากการที่ความต้องการใช้ในภาคพลังงานลดลงจากมาตรการปรับสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลจาก B7 เป็น B5 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567
ส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าราคาของประเทศผู้ส่งออกรายอื่น ๆ
ทั้งนี้ แม้ผลผลิตปาล์มน้ำมันในช่วงนี้ จะลดลงตามฤดูกาลผลิต ประกอบกับได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งและโรคระบาดในปาล์มน้ำมันในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทำให้ผลผลิตลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 10-15 แต่คุณภาพและอัตราการสกัดน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ดี และสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย เกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตามปกติ ทำให้น้ำมันปาล์มมีเพียงพอ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม จากการพยากรณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่า ผลผลิตปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาดปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ราคาผลผลิตของพี่น้องเกษตรกรอยู่ในเกณฑ์ดี และผู้บริโภคมีน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์เพียงพอต่อความต้องใช้ โดยราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบ ณ วันที่ 19 ธ.ค.67 อยู่ที่กิโลกรัมละ 7.80–8.60 บาท และ 43.50–43.75 บาท ตามลำดับ
“กรมขอความร่วมมือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันตัดผลปาล์มสด สุก ไม่แยกร่วง เพื่อให้ได้ราคาดีและจะได้น้ำหนักเพิ่มด้วย หากเกษตรกรพบผู้ประกอบการรายใดดำเนินการโดยจงใจที่จะทำให้ราคาต่ำเกินสมควรหรือสูงเกินสมควร หรือทำให้ปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใด ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด”นายวิทยากร กล่าว