50 ผู้บริหาร มองเศรษฐกิจไทยปี 68 ดิจิทัล-ความยั่งยืน Game Changer

27 ธ.ค. 2567 | 03:44 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ธ.ค. 2567 | 03:51 น.

“ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูง 50 ราย มองเศรษฐกิจไทยปี 68 ท่ามกลางความท้าทาย 67.3% คาด GDP โต 2-3% เร่งลงทุนด้าน AI-ดิจิทัล ชี้ AI-ML เป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนเกม พร้อมรับเทรนด์ ESG-ความยั่งยืน

ปี 2568 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี การแข่งขันที่รุนแรง และความคาดหวังด้านความยั่งยืนที่เพิ่มสูงขึ้น ผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูงและนักวิชาการชั้นนำของประเทศจำนวน 50 ราย ของ “ฐานเศรษฐกิจ” สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่กำลังเกิดขึ้นในภาคธุรกิจไทยไว้อย่างชัดเจน

คาดเศรษฐกิจปี 68 โตแค่ 2-3% 

ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่ถึง 67.3% คาดการณ์การเติบโตของ GDP ไทยในปี 2568 จะอยู่ที่ระดับ 2-3% สะท้อนมุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม มี 20.4% ที่มองว่าเศรษฐกิจจะเติบโตที่ 3-4% แสดงให้เห็นว่ายังมีกลุ่มที่มองเห็นโอกาสการเติบโต โดย 38.8% วางแผนที่จะเพิ่มการลงทุน และ 36.7% จะรักษาระดับการลงทุนเท่าเดิม

ขณะที่นโยบายภาครัฐถูกจัดให้เป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากที่สุด ตามมาด้วยสถานการณ์การเมืองโลกและอัตราดอกเบี้ย สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของปัจจัยเชิงนโยบายและสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์

 

50 ผู้บริหาร มองเศรษฐกิจไทยปี 68 ดิจิทัล-ความยั่งยืน Game Changer

 

ด้านต่างประเทศผู้บริหารส่วนใหญ่มองว่าอาเซียนยังคงเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจมากที่สุด (49%) ตามมาด้วยอินเดีย (24.5%) และจีน (18.4%) สะท้อนโอกาสในการขยายตลาดในภูมิภาค แม้จะต้องเผชิญกับมาตรการกีดกันทางการค้าที่ 53.1% ของผู้บริหารมองว่าเป็นอุปสรรคสำคัญที่น่าสนใจ คือ จะมีการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทยมากที่สุดในปี 2568 เปิดโอกาสให้ไทยในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในบริบทของการปรับห่วงโซ่อุปทานโลก

เร่งลงทุนด้านเทคโนโลยี-AI 

AI และ Machine Learning ถูกมองว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมมากที่สุด โดยมีผู้บริหารถึง 71.4% ให้ความสำคัญกับบทบาทของ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะในด้าน Data Analysis (34.7%) และ Administrative Tasks (28.6%) ที่คาดว่า AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ

ขณะที่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลก็ได้รับความสำคัญไม่แพ้กัน โดย Network Upgrade (52.2%) และ Security System (50%) เป็นสองด้านที่ได้รับความสนใจมากที่สุด สะท้อนการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

 

50 ผู้บริหาร มองเศรษฐกิจไทยปี 68 ดิจิทัล-ความยั่งยืน Game Changer

 

ห่วงความเสี่ยงพฤติกรรมผู้บริโภค

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคถูกจัดให้เป็นความเสี่ยงที่ผู้บริหารกังวลมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของ E-commerce (42.9%) และ Social Commerce (36.7%) ที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของการค้าปลีก โดยผู้บริหาร 44.9% มองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 68 จะให้ความสำคัญกับราคามากที่สุด ขณะที่ 28.6% มีความเห็นว่าเป็นเรื่องคุณภาพ เป็นหลัก แต่ก็เริ่มให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความยั่งยืนมากขึ้น

นอกจากนี้ในเรื่องของ Cybersecurity เป็นความท้าทายสำคัญอีกประการหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่องของ Data Breach (และ Ransomware รวมถึง Supply Chain Attack และ Social Engineering ที่ผู้บริหารกังวลมากที่สุด สะท้อนความจำเป็นในการลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ควบคู่ไปกับการพัฒนาดิจิทัล

พัฒนาคนสู่ยุคแห่งทักษะดิจิทัล

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า, ความสามารถด้านดิจิทัล และ Data Analytics เป็นทักษะที่ผู้บริหารมองว่าสำคัญที่สุด สะท้อนความต้องการแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัลและความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ขณะที่รูปแบบการทำงานก็กำลังเปลี่ยนแปลงไป โดย 61.2% คาดว่า Hybrid Work จะเป็นมาตรฐานใหม่ในปี 2568

ความยั่งยืน-ESG จากนโยบายสู่การปฏิบัติ

ประเด็นความยั่งยืนกำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญในการดำเนินธุรกิจ โดย 59.2% ของผู้บริหารระบุว่ามีแผนการลงทุนด้าน ESG โดยการลดการปล่อยคาร์บอน (40.8%) และธรรมาภิบาลองค์กร (26.5%) เป็นประเด็นที่ได้รับความสำคัญสูงสุด เช่นเดียวกับ Green Technology ที่ได้รับความสนใจในการลงทุนสูงถึง 67.3% ขณะที่ 49% ของผู้บริหารอยู่ระหว่างพัฒนาแผนรับมือ Climate Change สะท้อนการตื่นตัวต่อประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

ปรับตัวสู่โมเดลธุรกิจใหม่ยุคดิจิทัล

55.1% ของผู้บริหารคาดว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมจะเพิ่มมากขึ้นในปี 2568 โดย Digital Transformation เป็นเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลต่อธุรกิจ โดย Super App อย่าง Line (49%), TikTok (46.9%), Shopee (30.6%), Grab (8.2%) และอื่นๆ (2%) จะมีอิทธิพลต่อธุรกิจมากขึ้น ขณะที่ AI & Automation (65.3%) จะเป็น Game Changer ในอุตสาหกรรม

ขณะที่ 44.9% ของธุรกิจวางแผนปรับโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อรับมือกับ Digital Disruptor โดย 40.8% วางแผนที่จะเพิ่มสายธุรกิจใหม่หรือปรับโครงสร้างธุรกิจเดิม สะท้อนการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด

แม้จะเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน แต่ผู้บริหารส่วนใหญ่ยังมองผลประกอบการในแง่บวก โดย 53% คาดว่าองค์กรจะมีการเติบโต 0.1-10% ในปี 2568,ขณะที่ 22.4% คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 10%, อีก 22.4% คาดว่าจะทรงตัว และ 2% คาดว่าจะลดลง โดยแหล่งเงินทุนหลักเป็นเงินทุนภายใน (55.1%) และเงินกู้ธนาคาร (22.4%)

 

50 ผู้บริหาร มองเศรษฐกิจไทยปี 68 ดิจิทัล-ความยั่งยืน Game Changer

 

แนะรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน-ลดภาษี

ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าภาคเอกชนต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐในหลายด้าน โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (28.6%) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตามมาด้วยมาตรการภาษี (26.8%) ที่จะช่วยลดภาระและสร้างแรงจูงใจในการลงทุน และการพัฒนาทักษะแรงงาน (22.4%) ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว

นอกจากนี้ ผู้บริหารยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุน (14.3%) การส่งเสริมการส่งออก (2%) และมาตรการสนับสนุนอื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย

แนวโน้มที่ต้องจับตาในปี 2568

1. การเร่งตัวของ Digital Transformation การนำ AI และ Machine Learning มาใช้ในธุรกิจจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การแข่งขันในตลาดดิจิทัลจะรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม Super App ความสำคัญของความปลอดภัยทางไซเบอร์จะเพิ่มสูงขึ้น 

2. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค การซื้อสินค้าออนไลน์จะเติบโตต่อเนื่อง ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น Mobile Payment จะเป็นวิธีการชำระเงินหลัก

3. การปรับตัวของรูปแบบการทำงาน Hybrid Work จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ การทำงานแบบ Result-based จะได้รับความนิยมมากขึ้น ความต้องการทักษะดิจิทัลจะเพิ่มสูงขึ้น

4. การเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานโลก การย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทยจะเพิ่มขึ้น Green Supply Chain จะได้รับความสำคัญมากขึ้น การพึ่งพาตลาดในภูมิภาคจะเพิ่มสูงขึ้น

5. ความสำคัญของ ESG และความยั่งยืน มาตรการ ESG จะส่งผลต่อต้นทุนการส่งออก การลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียวจะเพิ่มขึ้น ธรรมาภิบาลองค์กรจะได้รับความสำคัญมากขึ้น

แม้ผู้บริหารส่วนใหญ่จะมองการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยความระมัดระวัง แต่ก็เห็นโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะโอกาสจากการย้ายฐานการผลิต การเติบโตของตลาดดิจิทัล และการขยายตัวในภูมิภาคอาเซียน 

การลงทุนในเทคโนโลยีและการพัฒนาบุคลากรจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ควบคู่ไปกับการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจและความยั่งยืน องค์กรที่สามารถปรับตัวและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นผู้ได้เปรียบในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง

 

50 ผู้บริหาร มองเศรษฐกิจไทยปี 68 ดิจิทัล-ความยั่งยืน Game Changer