ผ่างบประมาณ 69 ขาดดุลหนัก ตั้งงบประจำสูงสุด 2.6 ล้านล้าน

07 ม.ค. 2568 | 05:45 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ม.ค. 2568 | 09:45 น.

ผ่างบประมาณ ปี 2569 หลังครม.มีมติเห็นชอบ วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ยังคงทำนโยบายขาดดุลงบตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล ตั้งงบประจำสูงสุด 2.6 ล้านล้านบาท เช็ครายละเอียดแบบชัด ๆ รวมไว้ที่นี่ครบ

นายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 3,780,600 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2569- 2572) โดยปรับเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2568 เป็นจำนวน 27,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.7%

โดยงบประมาณฯ ปี 2569 กำหนดรายได้รัฐบาลสุทธิ 2,920,600 ล้านบาท และ เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 860,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ซึ่งเป็นการขาดดุลงบประมาณลดลงจากปีก่อน ภายใต้สมมติฐานทางเศรษฐกิจในปี 2569 ที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 2.3 - 3.3 หรือค่ากลาง 2.8% ส่วนอัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 0.7 - 1.7% ค่ากลาง 1.2% 

 

สำหรับโครงสร้างงบประมาณฯ ปี 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • รายจ่ายประจำ 2,645,858.9 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70% ของวงเงินงบประมาณ
  • รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 123,541.1 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.3% ของวงเงินงบประมาณ
  • รายจ่ายลงทุน 860,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.7% ของวงเงินงบประมาณ
  • รายจ่าย ชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 151,200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4% ของวงเงินงบประมาณ

ผ่างบประมาณ 69 ขาดดุลหนัก ตั้งงบประจำสูงสุด 2.6 ล้านล้าน

ส่วนงบประมาณรายจ่ายลงทุนและงบประมาณรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนด ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยในปีงบประมาณ 2569 ยังคงดำเนินนโยบายขาดดุลงบประมาณ เพื่อมุ่งเน้นการดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล 

รวมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ทั้งปัญหาหนี้สิน รายได้ และค่าครองชีพ เช่นเดียวกับการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ การต่อยอดการพัฒนาของภาคการผลิตและการบริการ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว และพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องด้วย

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ในการประชุมครม.ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับในที่ประชุมครม. ขอให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทำงบประมาณฯ ปี 2569 ให้เป็นไปตามแผนการคลังระยะปานกลางอย่างเคร่งครัด โดยเน้นประเด็นที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ดังนี้ 

1. ให้กระทรวงการคลังดำเนินการจัดเก็บรายได้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยให้เทียบเคียงการดำเนินการกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกับประเทศไทย 

2. ให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อให้มีความคุ้มค่า ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน สำหรับการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้เสนอขอรับเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้ความสำคัญกับโครงการลงทุนของภาครัฐ 

3. ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีเงินนอกงบประมาณ เงินรายได้ หรือเงินสะสม ให้นำเงินมาใช้ดำเนินโครงการหรือภารกิจในความรับผิดชอบเป็นลำดับแรก รวมทั้ง พิจารณาแหล่งเงินอื่นเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินโครงการของหน่วยงาน ตามความเหมาะสม

4. ให้ทุกกระทรวงและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งให้รัฐวิสาหกิจพิจารณา ลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนและนักลงทุนจากต่างประเทศ เข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น

แหล่งข่าว ระบุว่า ในขั้นตอนต่อไปนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2569 ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ในวันที่ 15 มกราคม 2568 จากนั้นจึงให้หน่วยงานต่าง ๆ จัดทำคำของบประมาณเสนอเข้ามายังสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณารายละเอียดในขั้นตอนการจัดทำงบประมาณต่อไป