แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือบอร์ดแบงก์ชาติ ว่า ขณะนี้ นายปรเมธี วิมลศิริ ประธานบอร์ด ธปท.คนปัจจุบันกำลังจะหมดวาระลง หลังจากนั่งรักษาการครบ 120 วัน ภายในวันที่ 16 มกราคม 2568 นี้ ซึ่งจะไม่มีการต่อเวลาออกไปอีก และต้องตั้งรองประธานขึ้นมารักษาการแทน นั่นคือ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการอยู่ในขณะนี้
“หลังจากที่นายปรเมธี ประธานบอร์ดแบงก์ชาติหมดวาระการรักษาการในตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท. จะไม่เกิดภาวะสุญญากาศ เพราะตาม พ.ร.บ.ธปท. กำหนดว่า สามารถให้รองประธานบอร์ด ธปท.ขึ้นมาทำหน้าที่ประธานแทนได้ในช่วงที่ยังสรรหาประธานบอร์ดไม่เสร็จสิ้น” แหล่งข่าว ระบุ
แหล่งข่าวยอมรับว่า การประชุมบอร์ดแบงก์ชาติในช่วงระหว่างรองประธานขึ้นมารักษาการประธานแทนในช่วงต่อจากนี้ จะยังไม่มีวาระสำคัญที่ต้องพิจารณามาก และจะไม่เกิดภาวะสุญญากาศเพราะวาระสำคัญส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2568 ทั้งการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ และแผนการดำเนินงานของ ธปท.ในระยะต่อไป
ขณะที่การประเมินผลการทำงานของผู้ว่าการ ธปท.นั้น แหล่งข่าวมองว่า หากยังไม่สามารถแต่งตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ได้ทันการประเมินผลการทำงานของผู้ว่าฯ ธปท. โดยยังมีนายเศรษฐพุฒิ นั่งรักษาการประธานอยู่นั้น นายเศรษฐพุฒิ อาจแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อประเมินผลงานของผู้ว่าฯ ธปท.แทนได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกันมาในเบื้องต้นแล้ว
สำหรับการสรรหาประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่นั้น ที่ผ่านมาประสบปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง หลังจากคณะกรรมการสรรหาฯ เสนอชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และอดีตประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
แต่ท้ายที่สุดคณะกรรมการกฤษฎีการ่วม 3 คณะ ได้ตีความคุณสมบัติการเป็นประธาน ธปท. ของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย กรณีการเป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
โดยวินิจฉัยว่า อดีตประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากถือเป็น "ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" และยังไม่พ้นระยะเวลา 1 ปีตามที่กฎหมายกำหนด