นางสาวระพีภัทร ปลื้มพิทักษ์กุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เชียงใหม่สยามทีวี จำกัด เปิดเผยว่า สยามทีวี จัดงานเซลล์ประจำเดือนสิงหาคม ครึ่งเดือนแรกจัดแคมเปญ"ระเบิดราคา" ตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคม ใกล้จะจบแล้วแล้ว ยังจะมีงาน 8.8 (วันที่ 8 เดือน 8 )ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีมาก สินค้าที่ขายดีทุกหมวด โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ฯลฯ ยอดขายโตขึ้นประมาณ 100 % โตขึ้น 2 เท่าจากวันปกติ ทั้งช่องทาง On Line และ Off Line
ช่วงครึ่งหลังของเดือนสิงหาคม สยามทีวีจัดงานเซลล์อีก 2 งานใหญ่ งานแรกระหว่างวันที่ 12-31 สิงหาคมนี้ เป็นงาน"สยามทีวี Back to School" ต้อนรับเปิดเทอมใหม่ ในช่วงเดียวกันนี้ยังได้จัด "MID MONTH SALE Mother's Day" ฉลองวันแม่กับโปรกลางเดือน และในช่วงปลายเดือน ก็จะมีงาน "PAYDAY เฮ สนั่น" ในช่วงเงินเดือนออกในช่วงปลายเดือน
นางสาวระพีภัทร กล่าวว่า การจัดงาน สยามทีวี Back to School เพราะมองเห็นว่า ในเดือนสิงหาคมจะมีสถาบันการศึกษาบางแห่งที่เปิดเทอม บางโรงเรียนเลื่อนมาเปิดเทอมเดือนสิงหาคม ประกอบกับหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา ช่วงสิงหาคมเป็นอีกเดือนหนึ่งที่เหมือนเป็นช่วงซีซั่นของสินค้าไอที ที่มีสินค้าออกใหม่เยอะ ทั้งจากตัวแบรนด์เอง และจากผู้ผลิตชิปต่าง ๆ เช่น Intel หรือ AMD
"อย่างที่ทราบกันว่า ช่วงก่อนโควิดสินค้าไอทีตกลงมาถึงจุด ๆ หนึ่งแล้ว พอเกิดโควิกสินค้าไอทีกลับฟื้นขึ้นมา จากที่ต้องปรับตัวให้นักเรียนเรียนแบบ On Line หรือสำนักงานก็ให้พนักงานทำงานแบบ On Line จากที่บ้านมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สินค้ากลุ่มไอทีขายดีมาก เช่น แล็ปท็อป โน๊ตบุ้คต่าง ๆ ที่เป็นแบบตั้งโต๊ะ และกลุ่มปริ้นเตอร์ที่กลับมาขายดีขึ้นอีก ตลอดจนจอมอนิเตอร์ หรือกล้องเว็บแคม เนื่องจากคนต้องมีการประชุมออนไลน์มากขึ้น ทำให้กลุ่มอุปกรณ์ไอทีขายดีทั้งหมดเลย"
การเติบโตของสินค้าไอทีช่วง 2 ปีมานี้ ทำให้ผู้ผลิตชิปผลิตออกมาไม่ทันความต้องการ เกิดปัญหาขาดแคลน ประกอบกับค่าบาทอ่อน ทำให้สินค้า1-2 ปีมานี้มีการปรับตัวสูงขึ้นด้วย รวมไปถึงค่าขนส่งที่แพงขึ้นจากราคาน้ำมันต่าง ๆ ที่แพงขึ้นด้วย ทำให้สินค้าทุกหมวดปรับขึ้นกันหมด ขณะที่ค่าครองชีพประชาชนสวนทางกัน
"สยามทีวี"จึงกระตุ้นการทำตลาดอย่างต่อเนื่องทุกเดือน จากเดิมที่เน้นตลาดออฟไลน์เน้นขายหน้าร้าน ปัจจุบันหันมาทำแบบ O2O คือ ออฟไลน์ผ่านทางหน้าร้าน ควบคู่กับออนไลน์ และชื่องานจะปรับไปเป็นออนไลน์มากยิ่งขึ้น ระยะเวลาการจัดงานจะสั้นลง บางงาน อาจจะ 3 วัน 5 วัน 7 วัน เหมือนทำแฟลชเซลล์ พร้อมของแจก ของแถม แบบสั้น ๆ แต่แรง ๆ กระตุ้นแล้วโดนใจ ต้องรีบซื้อ ซึ่งจะเป็นเทรนด์นี้ยาวไปถึงสิ้นปี"
งาน สยามทีวี Back to School ครั้งนี้ มีแบรนด์ต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตรเข้าร่วมค่อนข้างเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Asus acer hp Lenovo Dell Canon EPSON Microsoft Intel และ AMD ซึ่งเป็นพันธมิตรเหนียวแน่น ร่วมกันทั้งการทำตลาด การสนับสนุนตัวสินค้า ตลอดจนนวัตกรรมต่าง ๆ ที่จะมานำเสนอส่งตรงถึงผู้บริโภค โดยจากนี้ไปถึงปลายปีจะมีสินค้าใหม่ออกมาค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น Intel จะมีตัวเจน 12 ใหม่ล่าสุด ที่เร็ว แรง และ AMD ก็เช่นเดียวกัน มีการเปิดตัวใหม่ชิพเซ็ตตัวใหม่ ที่เป็น AMD ซีรีส์ 6000 มาตอบโจทย์เกมเมอร์ด้วยเช่นเดียวกัน หรือสินค้าก็เสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น โน๊ตบุ้ค Asus รุ่น Duo ใหม่ล่าสุด 2 หน้าจอสุดล้ำ รองรับทั้งความต้องการใช้งานทั่วไปหรืองานระดับมืออาชีพ
นางสาวระพีภัทร กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของสยามทีวี ได้ทำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมด้วยเช่นเดียวกัน ลดสูงสุดถึง 70% มีคูปองส่วนลดถึง 5,000 บาท และคูปองส่งฟรีทั่วไทยสูงสุดอีก 1,000 บาท และพิเศษสำหรับนักเรียน นักศึกษา บุคลากรทางการศึกษา แค่โชว์บัตร รับส่วนลดไปเลยสูงสุดถึง 15%
ภาพรวมการเติบโตของตลาดสินค้าไอที ปีนี้จะเติบโตชะลอตัวลง เนื่องจาก 1-2 ปีมานี้สินค้าไอทีขายดีมาก จากนี้ต้องโตจากฐานที่ใหญ่ขึ้น โดยปีนนี้คาดยอดการเติบโตจะอยู่ที่ประมาณ 10 % สำหรับกลุ่มของสินค้าไอทีทั้งหมด แต่ทางสยามทีวี ตั้งเป้าโตไปจนถึง 30 % ในช่วงปลายปีนี้ จากการจัดงานกระตุ้นทุกเดือน
ส่วนช่วงปลายเดือนเป็นงาน "สยามทีวี Payday เฮ สนั่น" ระหว่างวันที่ 28-31 สิงหาคม เป็นการจัดแคมเปญรวมทุกหมวดสินค้า ทั้งไอที มือถือ ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน จะมีโปรฯพิเศษจากงานระเบิดราคา เสริมเข้าไปในช่วงนั้นด้วย
ทำให้ภาพรวมการทำตลาดกระตุ้นยอดขายสยามทีวีเดือนสิงหาคมนี้ ที่มีต่อเนื่องมา ตั้งแต่ MID MONTH SALE Mother's Day ร่วมบรรยากาศกิจกรรมวันแม่ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี คาดว่าจะเติบโตขึ้นได้อีก 10 % เทียบเดือนเดียวกันปีที่แล้ว โดยกลุ่ม Black to School สินค้าไอทีอย่างเดียว คาดว่าจะโตขึ้นจากเดิมประมาณ 20% อยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาท และยอดขายครึ่งเดือนหลังจากทุกหมวดสินค้ารวมกันจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ สยามทีวี มีช่องทางจำหน่ายทั้งหมด 8 ช่องทาง ออฟไลน์กับหน้าร้าน 4 สาขา คือ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง จองทอง และออนไลน์ผ่านเว็บ siamtv.com หรือแพลตฟอร์ม Lazada Shopee JD CENTREL ทำให้สามารถให้บริการซื้อขายได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีบริการส่งฟรีทั่วไทยส่งตรงถึงบ้านอย่างรวดเร็วมั่นใจ ตลอดจนการทำตลาดไดเร็คเมล์
นางสาวระพีภัทร กล่าวต่อไปอีกว่า ปีนี้ค่อนข้างแข่งขันรุนแรงมากกว่าปกติ จากก่อนหน้าที่สินค้าขาดแคลน ไม่ต้องทำตลาดมากก็ขายได้หมด แต่เวลานี้สินค้าฃกลับมาผลิตได้เต็มกำลัง การแข่งขันรุนแรง ราคาสูงขึ้นตามเงินเฟ้อ ทำให้ทุกคนหันมากระตุ้นการขายเหมือนกันหมด เพราะเป็นช่วงที่ลูกค้ามีปัญหาค่าครองชีพสูง จึงต้องกระตุ้นตลาดต่อเนื่อง
สมัยก่อนอาจจะของไม่มี สินค้าซ็อต ๆ ไม่ต้องทำการตลาดมากก็ขายหมด แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่ ปีนี้ค่อนข้างที่จะแข่งขันรุนแรงมาก มาปีนี้เจอของขึ้นราคาทุกคนก็น่าจะออกมาในลักษณะเดียวกันคือ กระตุ้นการขายเหมือนกันหมด หนึ่งของแพง สองผู้บริโภคอาจจะมีรายได้ที่ลดลงหรือมีค่าครองชีพที่สูงขึ้น มีความจำเป็นที่จะต้องทำการตลาดกันอยู่ต่อเนื่อง ต้องต่อสู้กันหนักและน่าจะเห็นของจริงกันในปีนี้