นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กล่าวถึง ทิศทาง Wellness ในประเทศไทย ว่า การเรียนการสอนของแพทย์ไม่ได้มีการบรรจุเกี่ยวกับศาสตร์ทางเลือก หรือ Wellness ทำให้การทำหน้าที่ของแพทย์มุ่งไปสู่การรักษามากกว่าการป้องกันและฟื้นฟู ปัจจุบัน สธ. ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ และพยายามจะผลักดันให้มีการดูแลสุขภาพที่เป็นบทบาทของทุกคน แต่ต้องยอมรับว่าทิศทางของงบประมาณจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องการรักษา
“นโยบายของ สธ. จะมีการส่งเสริมสุขภาพที่ดีเพื่อนำไปสู่เศรษฐกิจที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จึงได้มีการสนับสนุนและพยายามหาโมเดลในการดำเนินการเรื่อง Wellness Center ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะในส่วนของสถานพยาบาล แต่จะขยับไปสู่โรงแรม ร้านอาหาร สปา และทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมกัน โดยใช้ความเป็นไทยบริหารการท่องเที่ยว ทำให้ทุกคนที่มาประเทศไทยมีความมั่นใจในระบบประกันสุขภาพของไทย ที่สำคัญการมีสุขภาพดีสามารถยกระดับเรื่องเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นได้”
ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ฟื้นฟูความงามเวชศาสตร์ชะลอวัย รพ.บำรุงราษฎร์ กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง “ทิศทางการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ” ว่า การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) เติบโตเป็น 2 เท่า ในปี 2573 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.59 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จากปี 2563 ที่มีมูลค่าราว 4.36 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นประเทศไทยควรจะส่งเสริม Wellness Tourism ให้ครบวงจรและเกิดขึ้นจริงทุกพื้นที่ เพื่อดึงลูกค้าจากกลุ่มที่นอกเหนือจากกลุ่มนักท่องเที่ยว เช่น กลุ่มที่มาประชุม สัมมนาต่าง ๆ ควรจะทำให้โรงแรม มีการบริการสปา การดูแลสุขภาพอย่างครบถ้วน เพื่อทำให้คนที่มาประเทศไทยได้รับสุขภาพที่ดีกลับไป
ซึ่งจุดแข็งของไทย คือมีอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ถูก เมื่อเทียบกับคุณภาพ มีเอกลักษณ์เฉพาะในผลิตภัณฑ์การให้บริการ ซึ่งในส่วนของภาครัฐได้เข้ามากำหนดนโยบายเพื่อผลักดันและส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ส่วนจุดอ่อน ยังขาดความเข้าใจอย่างถูกต้องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขาดบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและขาดการบริหารงานอย่างเป็นระบบ
“การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่มีภาวะความเครียดมากมาย ทุกคนต่างแสวงหาวิธีการผ่อนคลาย ซึ่ง Wellness เป็นแนวทางการรักษาที่ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ นั่นถือเป็นโอกาสของประเทศไทย ยิ่งขณะนี้ชนชั้นกลางมีการขยายตัวและมีรายได้ที่สูงขึ้น ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น ดังนั้นหากผู้ประกอบการไทยสามารถดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาได้จะเป็นการเพิ่มรายได้เข้าประเทศอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน”
ขณะที่ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนา และผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพและหลักสูตรเวชศาสตร์ความงาม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ บรรยายพิเศษ เรื่อง Wellness จิ๊กซอร์ชิ้นสำคัญ สำหรับระบบสาธารณสุข ว่า สถานการณ์ Wellness ในประเทศไทย กำลังเติบโตอย่างมาก และเป็นโอกาสทางธุรกิจของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งเวชศาสตร์ชะลอวัยและ Wellness ไม่ใช่ศาสตร์หลอกลวง มีพื้นฐานที่มาที่ไปจากวิทยาศาสตรการแพทย์ จับต้องได้และทำได้จริง และน่าจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของ Primary Health Care, Functional Family Medicine, True Preventive Medicine ที่จะเป็นแกนหลักที่นำไปสู่ TRUE HEALTH FOR ALL
“Wellness เป็นศาสตร์ที่ไม่ใช่แพทย์ก็สามารถเรียนได้ ถือเป็นจิ๊กซอร์สำคัญ ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้น เพราะ Wellness เป็นการปรับปรุงวิถีชีวิตรอบด้าน ดังนั้นการเปิดศูนย์ DPU Wellness Center จะเป็นโมเดลที่ทำให้ทุกคนเกิดไอเดียในการป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพของตนเอง”