ปรากฎการณ์ "ลิซ่า BLACKPINK" ดันยอดขาย"เดนทิสเต้"พุ่ง
เดนทิสเต้ ปลื้ม ปรากฏการณ์ "ลิซ่า BLACKPINK" ดันยอดขายพุ่ง แบรนด์แข็งแกร่ง เตรียมเดินหน้ารุกตลาดปี 66 เต็มสูบ ประเดิมจัดงานมีท แอนด์ กรี๊ด พร้อมทั้งเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ -ผุดโรงงานต่างประเทศ
ปลุกกระแสตั้งแต่ต้นปี สำหรับยาสีฟันพรีเมียมแบรนด์อย่าง เดนทิสเต้ ที่เล่นใหญ่ เนรมิตพื้นที่ของรอยัล พารากอน ฮอลล์ จัดงาน 'LISA' Special Greet: "DENTISTE' presents Confident Smile with LISA" งานรวมพลสาวกบลิ๊งค์ผู้โชคดีกว่า 3,200 คน ที่ได้ร่วมกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูชีพร่วมกับ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล แบรนด์แอมบาสเดอร์ของเดนทิสเต้
ภายในงาน "DENTISTE' presents Confident Smile with LISA"แบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง ลิซ่า ก็ได้มีการพูดคุย เล่นเกม และยังมอบลายเซ็นให้กับผู้โชคดี 30 คนบนเวที ขณะเดียวกันแฟนคลับยังได้ทำเซอร์ไพรซ์ด้วยการอัดคลิป ให้กับลิซ่า และปิดท้ายสมการเล่นใหญ่ของเดนทิสเต้ ด้วยการมอบ DENTISTE’ Diamond ยาสีฟันจากผงเพชรนำเข้า 1.2 กะรัต ราคาหลอดละ 1,000 เหรียญสหรัฐ ที่มีเพียง 100 หลอดในโลกให้กับลิซ่า
เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมียมเดนทิสเต้ (DENTISTE’) บริษัท สยามเฮลท์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้ เดนทิสเต้ตั้งใจมอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทุกคนเป็นรอยยิ้มมั่นใจของลิซ่า เพื่อให้คนไทยทุกคนยิ้มมั่นใจรับปีใหม่อย่างมีความสุขและทำทุกอย่างประสบความสำเร็จในปี 2566 ทั้งนี้บริษัทฯเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว จากการที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในประเทศจำนวนมากตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี
ปรากฏการณ์ ลิซ่า Soft Power ดันยอดขายพุ่ง-แบรนด์เป็นที่รู้จัก
เภสัชกร ดร.แสงสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า การได้ลิซ่า BLACKPINK ซึ่งเป็นศิลปิน K-POP ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทำให้แบรนด์มีความแข็งแกร่ง และยอดขายก็เติบโต ซึ่งการรุกเข้าไปเจาะในตลาดต่างประเทศ ยกตัวอย่าง สหรัฐอเมริกา ก็ง่ายขึ้น เพราะกระแสของ K-POP ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
“ลิซ่าเป็นคนบุรีรัมย์ พูดภาษาอีสานชัดมาก แม้คนสวย คนเก่งจะมีเยอะ แต่ลิซ่าเป็น Soft Power ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ลิซ่าเป็น Role Model ของเด็กไทยและคนรุ่นใหม่ ในด้านความมุ่งมั่น ความพยายาม และความอดทนมาก ๆ และทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จในเวทีระดับโลก”
เดินหน้ากลยุทธ์สินค้าใหม่ -เจาะกลุ่ม Gen Z
นอกจากแผนงานด้านกิจกรรมการตลาดที่เพิ่งจัดไป ในปีนี้ในส่วนผลิตภัณฑ์จะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ สินค้าใหม่ อาทิ รวมไปถึงการแก้ไขจุดอ่อนในแต่ละเซกเมนต์ โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ที่จะต้องมีสินค้าเพื่อตอบโจทย์กลุ่มนี้
เตรียมผุดโรงงานที่เกาหลี-ตั้งสนง.ไต้หวัน
นอกจากแผนงานในประเทศแล้ว แผนงานต่างประเทศในปีนี้ก็จะเข้มข้นขึ้น โดยปัจจุบัน สัดส่วนการขายของเดนทิสเต้ แบ่งเป็นขายในประเทศ 50 % และ ส่งออก 50 % ตลาดใหญ่ของเดนทิสเต้อยู่ที่ เกาหลี และ ญี่ปุ่น ส่วนเป้าหมายในอนาคต คาดว่าสัดส่วนการขายในประเทศจะอยู่ที่ 20 % และที่เหลือจะเป็นตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับตลาดต่างประเทศที่กำลังจะเติบโต บริษัทฯจึงวางแผนเริ่มตั้งแต่การตั้งโรงงานในประเทศเยอรมนี เตรียมจะตั้งโรงงานที่ประเทศเกาหลี และเปิดสำนักงานที่ประเทศไต้หวัน
