นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้เชื่อว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะฟื้นตัวดีขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาดี หลังจากที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย แม้จะมีเรื่องสถานการณ์เงินเฟ้อภายในประเทศ รวมถึงสภาพอากาศที่ไม่อำนวย แต่คาดว่าแนวโน้มตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้จะกลับมาคึกคัก จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยคาดว่าจะเติบโตราว 5-10%”
ในปีนี้บริษัทมีแผนรุกสร้างแบรนด์และขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยจะเน้นนำเสนอสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ประหยัดพลังงาน มีสุขอนามัยที่ดี เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มโดยสินค้าที่จะเปิดตัวในปีนี้ อาทิ เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ ใหม่ รุ่น Happy Inverter KX Series ออกแบบมาเพื่อความสบายด้วยดีไซน์ที่สะดวกต่อการล้างทำความสะอาดได้ง่าย
พร้อมฟังก์ชัน ครบครัน คุ้มค่า ในระดับราคาที่จับต้องได้, ตู้เย็นรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับวิถี New Normal ด้วยการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ ประหยัดพลังงานด้วยระบบ Neuro Inverter ตู้เย็น 4 ประตู รุ่น 4D Smart Freeze, พัดลมมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ช่วยป้องกันไฟดูด พร้อมระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์มีอุณหภูมิสูง พร้อมกล่องเหล็กครอบสวิตซ์ มั่นใจ ปลอดภัยระดับพรีเมียมประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว เป็นต้น
“ด้านกลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งไปที่ Sport Marketing ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (BGPU) เป็นปีที่ 5 พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านทั้งสื่อหลักและช่องทางออนไลน์ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในยุคดิจิทัล อาทิ Social Media, VDO Content, การใช้ Influencer และ KOL เป็นต้น รวมทั้งมีแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และแคมเปญการตลาด พร้อมสนับสนุนช่องทางการขายให้กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ การสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม นนท์ -ธนนท์ จำเริญ ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีภาพลักษณ์เป็นมิตร เข้าถึงง่าย เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและสร้างความจดจำให้แบรนด์ โดยภาพยนตร์โฆษณาชุด “มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ไม่หยุดทำ แค่คำว่าดี” เป็นการตอกย้ำถึงดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค
ด้านการมุ่งมั่นว่าจะต้องทำในสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีที่สุด ไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต และเพื่อความสุขของผู้บริโภคทุกคน โดยจะเริ่มออกอากาศกลางเดือนก.พ. นิ้อย่างไรก็ดีในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศและเครื่องปั๊มน้ำให้ได้ โดยในปีนี้ (เม.ย. 65 - มี.ค. 66) คาดว่าจะมีการเติบโตราว 10%
สำหรับในปีงบประมาณ 2566 นี้ บริษัทเตรียมนำเสนอสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งใช้งบการตลาดและสร้างแบรนด์ไว้กว่า 1,200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานการจัดจำหน่าย โดยได้พลิกโฉมโชว์รูม AI Gallery เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมสมบูรณ์ต่อการนำเสนอให้ลูกค้าและผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสถึงคุณสมบัติและเทคโนโลยีใหม่ๆ
ที่สามารถเติมเต็มทุกความต้องการได้ ภายใต้แนวคิด “โซลูชัน เพื่อการประหยัดพลังงาน พร้อมความสะดวกสบาย” (Solutions for Energy Saving with Comfort and Convenience) ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการประหยัดพลังงาน ความสะดวกสบายในการใช้งาน ที่เหมาะสมทั้งการใช้งานภายในบ้านและการใช้งานเชิงพาณิชย์ด้วย
ด้านนายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทได้ปรับองค์กรสู่ Digital Transformation นำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับการบริการหลังการขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเชื่อมโยงผ่านระบบออนไลน์ และปรับการทำงานในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการรับบริการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในระยะยาว โดยได้ยกระดับการบริการหลังการขายให้สมบูรณ์แบบ ด้วยการพัฒนาระบบ Online Service System ต่อเนื่องจากปีที่ ผ่านมาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เน้นการเชื่อมโยงระบบบริการหลังการขายของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค สำนักงานใหญ่ และศูนย์บริการแต่งตั้งทั่วประเทศไว้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน
นอกจากนี้บริษัทได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมความได้เปรียบทางการแข่งขัน บริษัทได้ดำเนินการพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ ตั้งแต่การสร้างคลังสินค้าขึ้นใน 2 ภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้า โดยทางภาคเหนือที่จังหวัดลำปาง และในเขตภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมพัฒนาระบบการจัดการที่ทันสมัย เชื่อมโยงเครือข่ายจากศูนย์กลางผ่าน Online Service System เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าในสภาพสมบูรณ์และรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,854 วันที่ 19 - 21 มกราคม พ.ศ. 2566