‘เมกา บางนา’ เปิดแนวรบ ซินเนอร์ยีเซ็นทรัล เจาะลูกค้ากระเป๋าหนัก

23 ม.ค. 2566 | 09:25 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ม.ค. 2566 | 09:27 น.

“เมกา บางนา” มั่นใจปี 66 ภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว เดินหน้าฉลองครบ 10 ปีดึงแบรนด์ดังเสริมแกร่ง ขยายฐานลูกค้าใหม่ พร้อมซินเนอร์ยีเครือเซ็นทรัล สร้างฐานลูกค้ากำลังซื้อสูง

ศูนย์การค้าเมกาบางนา ถือเป็นศูนย์การค้ารายใหญ่ที่ประกาศตัวบุกเบิก ขยายการลงทุนไปรอบนอก เพื่อสร้างจุดขาย เหนือคู่แข่งที่ส่วนใหญ่อยู่ใจกลางเมือง จากวันนั้นมาถึงวันนี้ 10 ปีพอดี กับการที่ศูนย์การค้าบางนา ประกาศยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนและเดินหน้าสร้างแบรนด์ “เมกา บางนา” ให้เป็น Meeting Place พร้อมต่อยอดการลงทุน ภายใต้ชื่อโครงการ “เมกาซิตี้” และสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ

นางสาวพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าบริหาร ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้เมกา บางนา พร้อมเดินหน้ารุกตลาดแบบล้อมด้านเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยในโอกาสครบรอบ 10 ปีนี้ศูนย์พร้อมเปิดตัวแม็กเน็ตเข้ามาเสริมทีม รวมถึงการต่อยอดจากแบรนด์ที่เข้ามา เพื่อสร้างให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น รวมทั้งตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกกลุ่มเป้าหมายด้วย

“หลังจากวิกฤติโควิดคลี่คลาย เมกา บางนาก็เดินหน้ารุกทำตลาด แคมเปญ โปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าในวาระครบรอบ 10 ปี ผ่านการทำกิจกรรมการตลาดต่างๆ หลังจากที่ในไตรมาส 4 ปี 2565  พบว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับเข้ามาใช้บริการในศูนย์เพิ่มมากขึ้น เกือบเท่ากับปี 2562 ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 และคาดว่าจะถึงสิ้นปี 65 จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์ราว 5 ล้านคน”

พลินี คงชาญศิริ

ทั้งนี้บริษัทได้เพิ่มแม็กเน็ตใหม่เข้ามาเพื่อสร้างจุดขายและนำเสนอสินค้านวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็น “ท็อป์ กอล์ฟ” เปิดให้บริการในเดือนส.ค. 65 นอกจากนี้ยังเปิดโซนใหม่ “UNDERGROUND”ขยายพื้นที่ความสุขของนักช็อป พาเหรดร้านค้าแบรนด์ฮิตกว่า 20 ร้าน อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ บริการร้านทำผมแฟชั่น ทำเล็บ รวมถึงร้าน Men’s Fashion & Grooming เพื่อเจาะกลุ่มนักช็อปกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มเฟิร์ส จ็อบเบอร์ (FIRST JOBBER) ที่ชื่นชอบสินค้าแฟชั่นที่มีคาแรคเตอร์เฉพาะตัว

โดยภายในโซน UNDERGROUND ประกอบไปด้วย

1. ALL FASHION THINGS ตระการไปกับสินค้าแฟชั่นครบทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นสายแฟชั่น สายเกาหลี สายลูกคุณหนู สายแคชชวล สายเท่ ก็สนุกได้กับไอเดียการแต่งตัวในสไตล์ของตนเอง 

2. LUXE SELECTION เติมเต็มความมั่นใจด้วยไอเทมแบรนด์ดัง ที่เสริมให้การแต่งตัวมีสไตล์โดดเด่น อาทิ BAGNIFIQUE เป็นต้น

3. ATHLEISURE CHIC เท่แบบสบาย ๆ ตามสไตล์ ATHLEISURE ที่มาจากคำว่า ATHLETIC + LEISURE เพื่อสื่อถึงความแข็งแรงถ่ายทอดออกมาให้ลุคแบบสปอร์ตแวร์สบายๆอาทิ BAIBUA01, HOMEBOY เป็นต้น

4. HAIR & NAILS เมื่อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อาทิ ร้าน DON’T TELL MAMA, NAILS&TOES เป็นต้น

5.MEN’S FASHION & GROOMING เอาใจหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบการแต่งตัวไปกับแฟชั่นไอเทมหลากหลายดีไซน์ และบริการเสริมลุกเสริมหล่อกันแบบจัดเต็มอย่าง THE ESQUIRE BARBER

‘เมกา บางนา’ เปิดแนวรบ ซินเนอร์ยีเซ็นทรัล เจาะลูกค้ากระเป๋าหนัก

“ในปีนี้เมกา บางนา ฉลองครบรอบ 10 ปี ทำให้ศูนย์ทุ่มงบ ทำแคมเปญตลาด โปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า ทำให้เชื่อมั่นว่าในปี 2565 ที่ผ่านมาจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้ราว 5 ล้านคน โดยเฉพาะในไตรมาส 4 พบว่ามีตัวเลขเป็นบวก 20-30%  ขณะที่ในปี้นี้บริษัทเตรียมดึงร้านค้าแบรนด์เนมเข้ามาเปิดบริการเพิ่มขึ้น รวมทั้งการปรับเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ๆ ให้หมุนเวียนเข้ามาทำตลาดเพื่อสร้างสีสัน และดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นด้วย”

อย่างไรก็ดีในปีที่ผ่านมาเมกา บางนาประสบความสำเร็จจากการร่วมเป็นพันธมิตรแบรนด์ดัง ทำกิจกรรมร่วมกัน และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ในปีนี้มีแผนทำกิจกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งการดึงร้านค้าทั้งโลคอล และต่างประเทศเข้ามาทำตลาด โดยในปี 2565 มีร้านค้าใหม่เข้ามา 40-50 ร้านค้า

ส่วนในปี 2566 คาดว่าจะมีเข้ามาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน รวมทั้งการซินเนอร์ยีกับเครือเซ็นทรัล เพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อไป โดยเริ่มจากการเปิดห้างเซ็นทรัล ในปลายปี 2566 จากปัจจุบันที่อยู่ระหว่างการรีโนเวท โดยเปลี่ยนจากห้างโรบินสันเป็นห้างเซ็นทรัล รวมถึงการดึงแบรนด์เนมเข้ามาเปิดให้บริการเพื่อสร้างฐานลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงด้วย

‘เมกา บางนา’ เปิดแนวรบ ซินเนอร์ยีเซ็นทรัล เจาะลูกค้ากระเป๋าหนัก

“เมกา บางนา มีฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัวค่อนข้างชัดเจน แต่ในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงยังมีช่องว่างและโอกาสอีกมาก ดังนั้นในปี 2566 ศูนย์จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก รวมทั้งในอนาคตจะเห็นโซนวอทช์แอนด์จิวเวลลี่ มาเปิดให้บริการ ฯลฯ”

อย่างไรก็ดี หลังจากที่จีนเปิดประเทศ ทำให้มองเห็นโอกาสต่างๆ มากมาย “พลินี” บอกว่า แม้ลูกค้าของเมกาบางนาส่วนใหญ่ยังเป็นคนไทย แต่หลังจากสถานการณ์โควิด จึงเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการบ้าง สาเหตุหนึ่งเนื่องจากทำเลที่ตั้งของเมกา บางนาอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เมกา บางนากลายเป็นอีกจุดหมายของนักท่องเที่ยว ก่อนเดินทางกลับประเทศ

“ถ้ามองภาพรวมของประเทศไทยถือว่าสถานการณ์ตอนนี้คลี่คลายขึ้น หากพิจารณาจากมุมมองของกระทรวงการคลังที่คาดว่าเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) จะขยายตัวเร่งขึ้น โดยได้แรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว ทั้งนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยคาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวนกว่า 21.5 ล้านคน ซึ่งน่าจะส่งผลในทิศทางที่ดีกับประเทศไทย สำหรับเมกาบางนาเอง ก็เตรียมแผนรองรับลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อให้ดึงดูดให้กลุ่มนักท่องเที่ยวได้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ฯ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Tourist Privilege ที่จะมอบให้กับนักท่องเที่ยวเมื่อใช้จ่ายที่เมกาบางนา”

ขณะเดียวกัน การที่รัฐบาลออกมาตรการช้อปดีมีคืน  เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นอย่างแน่นอน “แคมเปญ ช้อปดีมีคืน สามารถช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของคนไทยเป็นอย่างมาก สำหรับเมกาบางนา ถือเป็น Momentum ที่ดีต่อเนื่องจากการใช้จ่ายหลังช่วงปีใหม่ โดยทางศูนย์มีการสื่อสารเรื่องแคมเปญช้อปดีมีคืนให้กับลูกค้า เพื่อสนับสนุนการขายของร้านค้าผู้เช่าอย่างเต็มที่

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,854 วันที่ 19 - 21 มกราคม พ.ศ. 2566