มิวสิคมาร์เก็ตติ้งยังทรงพลัง Heineken® Silver ดึง 3 ค่ายเพลงคนรุ่นใหม่ Warner Music Thailand, YUPP! และ What The Duck ครีเอท Music Activation ปักหมุดผับ-บาร์พรีเมียม 100 แห่งทั้งในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ หวังขึ้นแท่น Top-of-Mind กลุ่มเซนเนียล (Zennials) ในประเทศไทย
นางสาวภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัททีเอพี เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว Heineken ภายใต้กลุ่ม ทีเอพี ได้ออกสินค้าตัวใหม่ Heineken® Silver ซึ่งเป็นพรีเมี่ยมลาเกอร์เบียร์ กลุ่มเป้าหมายหลักของ Heineken® Silver คือนักดื่มรุ่นใหม่ที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกโอกาส โดยเฉพาะกลุ่มเซนเนียล (Zennials) หรือเด็ก Gen Zหรือเด็ก Gen Y กลุ่มเหล่านี้เป็น target หลักโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีFunctional Benefit
นอกจากนี้คนกลุ่มนี้ยังมองหาประสบการณ์ที่แบรนด์มอบให้มากกว่ารสชาติ ดังนั้นนอกจากการมอบรสชาติที่มีคุณภาพและความดื่มง่ายแล้วHeineken® Silverยังต้องการ Connect กับกลุ่มเป้าหมาย ผ่านประสบการณ์ทางด้านดนตรีซึ่งกลุ่มเซนเนียล มีความชอบทางด้านดนตรีเป็น Sub-Culture มีความชอบที่แตกต่างและหลากหลาย
ดังนั้นHeineken® Silverจึงมองหาพันธมิตรทางด้านดนตรีที่จะมอบประสบการณ์นั้นผ่านหนึ่งใน Music Marketing ของปีนี้นั่นคือ Music Activation ในเอาต์เลทหรือผับ-บาร์ กว่า 100 แห่งผ่านConcept ที่หลากหลายแตกต่างภายใต้แนวคิด “Unexpectedly Smooth” สมูทกันได้เกินคาด
โดยเราได้ร่วมมือกับค่ายเพลงชั้นนำของคนรุ่นใหม่ทั้ง “Warner Music Thailand” ค่ายเพลง HipHop ของคนรุ่นใหม่ที่ทุกคนจับตามอง “YUPP!” และหนึ่งในค่ายเพลงที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ “What The Duck” ซึ่งทั้ง 3 ค่ายนี้จะมอบประสบการณ์ทางดนตรีใน Outlet ชั้นนำทั่วประเทศผ่าน Concept ที่แตกต่างกันภายใต้ Concept หลักในผับบาร์ชั้นนำทั้งกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่
“ปีนี้ไฮเนเก้นต้องการสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับคนรุ่นใหม่ และรักษาความเป็น Top-of-Mind สำหรับผู้บริโภคในตลาดเครื่องดื่มพรีเมี่ยม โดยจะเน้นไปที่การบุกตลาด On-trade เป็นช่องทางหลักของไฮเนเก้นให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และเป็นช่องทางที่ทำให้เราเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้สินค้าใหม่อย่างไฮเนเก้น ซิลเวอร์ มาเป็น Game Changer ในตลาด และการทำ Music Activation กับร้านคู่ค้า ซึ่งเรามองถึงเป้าหมายยอดการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่ 65% เพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาดของแบรนด์ไฮเนเก้น”