“บุญรอดบริวเวอรี่ - OR” ลงขันลุยตลาดชา-กาแฟพร้อมดื่ม

หลังจากที่ “บุญรอดบริวเวอรี่” และ “OR” ออกมาประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ด้วยการควักกระเป๋าคนละครึ่ง “ร่วมทุน” ผ่านบริษัทในเครือ จัดตั้งบริษัท DRINK ENTERPRISE เพื่อพัฒนาเครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTD) ล่าสุดได้เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์นำร่องได้แก่ ชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” และกาแฟพร้อมดื่ม “คาเฟ่อเมซอน” ออกมาทดลองตลาดว่า ดีลครั้งนี้จะไปได้สวยหรือไม่ โดยในช่วง 3 เดือนแรกจะวางจำหน่ายเฉพาะเซเว่น อีเลฟเว่นเท่านั้น

นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า บุญรอดฯ อยู่ในตลาดเครื่องดื่มมากว่า 90 ปี มีแบรนด์สินค้าคุณภาพที่ติดตลาดหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มสิงห์, น้ำแร่เพอร์ร่า, โซดาสิงห์, สิงห์ เลมอน โซดา ฯลฯ ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทร่วมมือกับ ปตท.ค้าปลีกและน้ำมันหรือ OR ในการเติบโตไปด้วยกันผ่านการพัฒนาสินค้า 2 ผลิตภัณฑ์

คือ ชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” และ กาแฟพร้อมดื่ม “คาเฟ่อเมซอน” เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่การร่วมมือในครั้งนี้ทั้งสองบริษัทมองว่าเป็นโอกาสที่จะเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ รวมทั้งสร้างประโยชน์เชิงบวกแทนที่จะอยู่คนเดียวเติบโตคนเดียว เพราะการมีพันธมิตรที่ดีจะผนวกให้เกิดการซินเนอร์ยีและเติบโตไปด้วยกันได้

ทั้งนี้บุญรอดมีความเข้มแข็งในด้านของการจัดจำหน่าย ที่ผ่านมาบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจับตลาดแมส และสามารถกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ ขณะที่ปตท. มีความแข็งแกร่งเรื่องน้ำมัน กาแฟและวัตถุดิบต่างๆ เมื่อรวมกันจะทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและความได้เปรียบโดยเฉพาะช่องทางการค้าปลีกที่แข็งแรงมาก

"การร่วมมือครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะพิสูจน์ว่าดีลครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และสามารถพาบริษัทนี้เติบโตไปได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ ซึ่งเรามั่นใจว่าเราเลือกพาร์ทเนอร์ไม่ผิดเพราะโออาร์ มีความแข็งแกร่งในจุดของเขาที่จะส่งที่จะส่งเสริมกันให้เติบโตต่อไปได้และในอนาคตเราไม่ได้หยุดแค่ 2 โปรดักส์นี้แต่จะมีโปรดักส์อื่นที่เราสามารถทำร่วมกันได้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้รสชาติที่ทาร์เก็ตกรุ๊ปของเราชอบมากที่สุด 

นอกจากนี้ยังวางงบการตลาดไว้ที่ 100 ล้านบาทเพื่อสร้างการรับรู้และคาดว่าในช่วง 1-2 ปีแรกของการทำตลาดจะสามารถทำยอดขายได้ราวๆ1 -2 พันล้านบาท"

ด้านนายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า  บริษัทมีแผนเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญคือการสร้างพันธมิตรเพื่อหาโอกาสขยายธุรกิจ (Strategic Alliance)  การร่วมกับบุญรอดในครั้งนี้จึงเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่มตามแผนการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

"จากการที่กาแฟอเมซอนอยู่ในตลาดมากว่า 20 ปีเราพบว่าธุรกิจกาแฟมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม RTD  จึงเป็นโอกาสที่เราจะมองหาตลาดใหม่ๆ โดยพยายามเอารสชาติที่ถูกปากคนไทย และมียอดขายสูงสุด 3 เมนูในร้านอเมซอนจากจำนวนยอดขายกว่า 300 ล้านแก้ว

ในเบื้องต้นโพรดักซ์ล็อตแรกที่จะออกสู่ตลาดจะประกอบไปด้วย กาแฟพร้อมดื่มแบรนด์ “อเมซอน” รูปแบบขวด PET ขนาด 200 มล. ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากกาแฟพรีเมียม และกระบวนการ Perfect Shot 27 วินาที มี 3 รสชาติ ได้แก่ อเมซอน ลาเต้  ราคา 35 บาท,อเมซอน เอสเปรสโซ ราคา 35 บาทและอเมซอน แบล็ค ราคา 29 บาท

ขณะที่พอร์ตชาพร้อมมี 2 รสชาติคือ “ฮารุ Cold Brew Green Tea” ชาเขียวเกรดพรีเมียมจากไร่ชา 1 ใน 3 แห่งของโลกที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น ผลิตด้วยกระบวนการ Cold Brew ที่ใช้เวลานานกว่าวิธีปกติ 1 เท่าตัวทำให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุน ในสไตล์ Modern Japanese ในขวดขนาด 440 มล. มี 2 รสชาติ คือ ฮารุ Cold Brew Green Tea Natural (สูตรปราศจากน้ำตาล) ราคา 30 บาท และ ฮารุ Cold Brew Green Tea Mild Sweet (สูตรหวานน้อย) ราคา 30 บาท

"กลุ่มเป้าหมายที่เราให้ความสนใจคือคนทำงานรุ่นใหม่ซึ่งไม่ค่อยมีเวลาแต่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความพิถีพิถันในการชงกาแฟ เราจึงทำสินค้าที่มีความพรีเมี่ยมตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ การแปรรูปและโรงงานมาตรฐานระดับโลกในราคาที่จับต้องได้โดยเบื้องต้นจะวางจำหน่ายแบบexclusive 3 เดือนแรกในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นกว่า 12,000 สาขา และออนไลน์ของทั้งคู่หลัง 3 เดือนจะขยายไปยังพื้นที่ช่องทางค้าปลีกอื่นๆ ทั้งโมเดิร์นเทรดและช่องทางค้าปลีกในท้องถิ่นที่เป็นร้านค้าพันธมิตรของบุญรอดอีก 20,000 แห่งทั่วประเทศ"