นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีของการทำธุรกิจธุรกิจเฮลท์แคร์ของบริศัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้ของกลุ่มวิมุตในไตรมาสแรกปี 2566 อยู่ที่ 412 ล้านบาท โตขึ้น 69% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา
โดยรายได้ทั้งหมดแบ่งออกเป็น 1) รายได้จากการบริการทางการแพทย์ของ รพ. วิมุต รวมกว่า 186 ล้านบาท โดยรายได้ที่ไม่รวมการรักษาโควิดนั้นเติบโตขึ้นกว่า 90% และจำนวนผู้ป่วยนอกสูงขึ้น 34% นอกจากนี้ยังมีจำนวนคนไข้ต่างชาติสูงขึ้นเกือบ 10% และ 2) รายได้จากโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ซึ่งมีรายได้กว่า 226 ล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา ตัวเลขนี้ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้
สำหรับแผนในอนาคต กลุ่มวิมุต ต้องการสานต่อแผนการเป็นผู้นำด้าน Trusted Healthcare Platform เพื่อตอกย้ำความเป็นเลิศด้านบริการสุขภาพที่ผสานความเชี่ยวชาญเฉพาะโรค นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการดูแลผู้ป่วยด้วยความใส่ใจผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม เรามี ViMUT Application ที่ให้บริการให้คำปรึกษาสุขภาพและติดตามการรักษาแบบไร้รอยต่อ ที่ทำให้การรักษาที่โรงพยาบาลและบ้านเชื่อมต่อถึงกัน
และในอนาคตจะพัฒนาสู่การเป็นโรงพยาบาลเสมือนจริง (Virtual Hospital) เพื่อดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่บ้านจากเครื่องติดตามการทำงานของร่างกาย หากมีเหตุฉุกเฉินหรือผิดปกติทีมแพทย์สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที รวมถึงบริการเจาะเลือดไม่ต้องมาโรงพยาบาล และเดินหน้าผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อยกระดับการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทำให้ชีวิตของทุกคนง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ทางด้านนายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 รพ. วิมุตยังคงใช้กลยุทธ์ “HOLISTIC HOSPITAL” เพื่อรองรับตลาดสูงวัยซึ่งปัจจุบันโครงสร้างประชากรไทยมีคนอายุ 60 ปีถึง 20% แผนที่จะดำเนินการต่อไปคือการขยายบริการให้ครอบคลุมโรคยากและซับซ้อนให้มากยิ่งขึ้น โดยร่วมลงทุนในโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ซึ่งมีชื่อเสียงในกลุ่มโรคยากและซับซ้อน เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง และกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆ เพื่อรวมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และนำองค์ความรู้มาพัฒนาศูนย์เฉพาะทางของวิมุตให้มีความเป็นเลิศยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ รพ.วิมุต ยังมีศูนย์แพทย์เฉพาะทางที่โดดเด่น ได้แก่ ศูนย์กระดูกและข้อ หัวใจ สมองและระบบประสาท ศูนย์ระบบทางเดินอาหาร ศูนย์เบาหวาน และศูนย์ผู้สูงอายุ (Geriatric Center) เป็นต้น ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อนำนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์มาตรฐานระดับสากลมาใช้ที่ศูนย์เฉพาะทางของเรา เพื่อช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคซับซ้อนและทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้เข้าถึงบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และมีอัตราการรอดชีวิตที่สูงขึ้น
รวมทั้งร่วมทุนกับนัลลูรี่ เทอราพิวติกส์ เพื่อถือหุ้นใน บริษัท นัลลูรี่ เทอราพิวติกส์ จำกัด ผู้ให้บริการสุขภาพผ่านระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพกายและใจผ่านฟีเจอร์ใหม่ ViMUT CARE โดยเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าธุรกิจ (B2B) และบุคคลทั่วไป (B2C) ในไทย เพื่อช่วยดูแลคนไข้ของโรงพยาบาลวิมุตโดยตรง ตลอด 24 ชั่วโมง เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
ด้วยทีมโค้ชสุขภาพของนัลลูรี่ (Naluri) ที่ประกอบด้วยแพทย์นักจิตวิทยา นักกำหนดอาหาร เภสัชกร ฟิตเนสโค้ช และที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อให้ผู้รับคำปรึกษาบรรลุเป้าหมายทางสุขภาพที่ได้ตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อลดน้ำหนัก คุมความดัน คุมเบาหวาน คุมระดับไขมัน หรือจัดการกับความเครียด ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะนำเฮลท์แคร์สู่คนไทยจำนวนมากขึ้น