โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เปิดตัว "The SiGHT by SiPH" ศูนย์รักษาและแก้ไขปัญหาสายตาเทคโนโลยีการรักษาสายตาตาสั้น – เอียงแบบไร้ใบมีด รวดเร็ว แม่นยำ แผลเล็ก อ่อนโยน ฟื้นตัวเร็ว ด้วย นวัตกรรมจากประเทศเยอรมนี “ReLEx Pro”
ศ.นพ. อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า พันธกิจของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 3 ด้าน ประกอบด้วย ให้การเรียนการสอนเพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและเปี่ยมด้วยจริยธรรม สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ผ่านงานวิจัย และภารกิจสำคัญคือการให้บริการทางการแพทย์ที่เป็นเลิศกับผู้ป่วย ด้วยการเสริมเทคโนโลยีมาช่วยในด้านการรักษาพยาบาลให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วย
ยกตัวอย่างเช่น การใช้หุ่นยนต์มาช่วยแพทย์ผ่าตัดรักษาผู้ป่วย การนำเทคโนโลยี AI มาช่วยด้านการตรวจวินิจฉัยโรค ตลอดจนการนำนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัยระดับโลกมาไว้ที่ศิริราช ภายใต้ความร่วมมือของ 3 โรงพยาบาล คือ รพ.ศิริราช ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ และศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก เพื่อให้บริการผู้ป่วยทุกระดับได้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2553 ถือเป็นต้นแบบโรงพยาบาลรัฐที่การบริหารและการให้บริการที่เป็นเลิศ และมีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับสากล โดยใช้ประสบการณ์และองค์ความรู้ของศิริราชเป็นพื้นฐาน ภายใต้แนวคิด “ผู้รับ ผู้ให้” เพราะรายได้ส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลแห่งนี้ จะส่งกลับคืนสู่คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เพื่อใช้ในกิจการของคณะแพทย์ และช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสให้ได้รับการรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
ซึ่งในแต่ละปีศิริราชมีผู้ป่วยนอกมาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน และผู้ป่วยในมากกว่า 80,000 คนต่อปี ซึ่งมีแนวโน้มว่า
จะเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี โดยตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ได้ส่งมอบเงินคืนคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,916 ล้านบาท
ด้านศ.คลินิก นพ. ชาญ ศรีรัตนสถาวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) กล่าวว่า สำหรับการเปิดบริการ “The SiGHT by SiPH” ศูนย์รักษาและแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติ สั้น เอียง ด้วยเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย ที่เรียกว่า “ReLEx Pro” เป็นเทคโนโลยีที่นานาชาติให้การยอมรับ โดย SiPH เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการและนำเข้าเทคโนโลยีนี้เป็นรายแรกของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกมีการให้บริการรวมประมาณ 30 เครื่อง ภายใต้การดูแลของทีมจักษุแพทย์ จาก รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ดีมีคุณภาพ อำนวยความสะดวกและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติและมีความสุข
ด้าน รศ. พญ.กนกรัตน์ พรพาณิชย์ หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เเละประธานศูนย์ตา โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวเสริมว่า ศูนย์ตา SiPH ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นของทีมคณาจารย์จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อให้บริการทางจักษุวิทยาตั้งแต่โรคตาเบื้องต้นจนถึงโรคตาที่มีความยุ่งยากซับซ้อน
ทีมแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญและตั้งใจที่จะให้การรักษาที่ดีที่สุด และถูกต้องตามหลักวิชาการแก่ผู้ป่วย นับเป็นเวลา 11 ปีมาแล้วที่ศูนย์ตาของเราให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วประเทศ
“The SIGHT by SiPH เป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของเรา ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขความผิดปกติของสายตารูปแบบต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยคณาจารย์ผู้มีประสบการณ์และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขากระจกตาและการแก้ไขสายตาผิดปกติ เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า The SIGHT by SiPH จะสามารถให้บริการที่ดีเยี่ยมและถูกต้องตามหลักวิชาการเพื่อตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาทางสายตาให้กับผู้เข้ารับบริการทุกคน”
ขณะที่ รศ.พญ. ชารีนันท์ จิรภาไพศาล อาจารย์ประจําสาขาวิชาโรคกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา
ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อธิบายเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยีการแก้ปัญหาสายตาด้วยเลเซอร์มีมานานกว่าสามสิบปีแล้ว และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การรักษาสายตาผิดปกติด้วยเลเซอร์รุ่นแรกหรือการทำพีอาร์เค (PRK-Photorefractive Keratectomy), ถัดมาเป็นการทำเลสิก (Lasik), การผ่าตัดด้วยเลเซอร์แบบแผลเล็ก รีเลกส์ สมายล์ ReLEx (Refractive Lenticule Extraction) SMILE (Small Incision Lenticule Extraction) และมาจนถึงการแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์ที่ได้รับการพัฒนารุ่นล่าสุดที่เรียกว่า ReLEx Pro เพื่อการรักษาภาวะสายตาสั้นและสายตาเอียง
“เทคโนโลยี ReLEx Pro เป็นการพัฒนาเพิ่มเติมต่อจาก ReLEx SMILE ซึ่งเป็นการผ่าตัดโดยใช้เฟมโตเซคันด์เลเชอร์ (Femtosecond Laser) ซึ่งมีความแม่นยำสูง ทำการแยกเนื้อกระจกตาบริเวณส่วนกลางออกเป็นแผ่นเลนติคูล์ (Lenticule)บางๆ จากนั้นแพทย์จะดึงแผ่น Lenticule นั้นออกมา ผ่านแผลที่ผิวกระจกตาขนาดเล็ก ประมาณ 2 - 3 มิลลิเมตรเมื่อดึง แผ่น Lenticule ออกแล้ว กระจกตาจะมีการเปลี่ยนแปลงความโค้งไปจากเดิม ทำให้การหักเหของแสงดีขึ้น จุดรวมแสงจากภาพที่เรามองจึงตกกระทบลงที่จอประสาทตาพอดี ทำให้คนไข้กลับมามีสายตาปกติ ReLEx Pro มีการปรับเทคโนโลยีให้ทันสมัยขึ้นโดยลดระยะเวลาในการยิงเลเซอร์ให้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 7-10 วินาที การผ่าตัดที่ใช้ระยะเวลาน้อย ทำให้ผู้ป่วยสามารถให้ความร่วมมือขณะผ่าตัดได้ดีขึ้น มีการรบกวนกระจกตาน้อย จึงทำให้โอกาสที่ผลการรักษาจะดีเป็นไปตามแผนมีมากขึ้น นอกจากนี้วิธีการแก้ไขสายตาโดย ReLEx Pro ถือว่ามีความแม่นยำและปลอดภัยสูง แผลขนาดเล็กและฟื้นตัวไว ผลข้างเคียงหลังผ่าตัด เช่น อาการตาแห้ง หรือแสงกระจายน้อย เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีรุ่นก่อนๆ ReLEx Pro จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีสําหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขสายตาเพื่อความสะดวกในการประกอบกิจกรรมต่างๆ รวมถึงความต้องการในการปรับภาพลักษณ์ในบางสาขาอาชีพ”