เมื่อ “มาม่า” มี “มาม่า สเตชั่น” (Mama Station) ร้านอาหารที่มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” เป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อเป็นอีกช่องทางในการสร้างแบรนด์ และเข้าถึงผู้บริโภค หลังนำร่องลองผิด ลองถูกในงานสหกรุ๊ป แฟร์ ก่อนปักหมุดสาขาแรกในปลายปี 2565 เพื่อเป็นสาขาทดลองเต็มรูปแบบ พร้อมกับทยอยปรับโอเปอเรชั่น ปรับโมเดล ปรับเมนู ปรับกลยุทธ์ ให้ลงตัว เตรียมสปีดขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าในปีหน้า
ฟากของ “บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด” ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ไวไวและควิกแสบ” ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหายไป ซุ่มเปิดตัว “ร้านควิกเทอเรส” (Quick Terrace) ในต่างจังหวัด เพื่อเป็นการชิมลาง ภายใต้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง”
“วีระ นภาพฤกษ์ชาติ” ผู้บริหาร บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ไวไวและควิกแสบ” เล่าให้ฟังว่า Quick Terrace เกิดขึ้นจากแนวคิดที่เราต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ด้วยนำสินค้าหลักที่เราผลิตมาต่อยอด สู่การเป็น Noodle Café แห่งแรกในประเทศไทย
ล้างภาพลักษณ์ของบะหมี่ซอง นำมาแต่งตัวใหม่โดยทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารของเราเอง สู่การเป็นเมนูแสนอร่อยในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึงได้ และเหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเริ่มออกสตาร์ทสาขาแรก ตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงงานไวไว สำนักงานใหญ่บริเวณ จ.นครปฐม ซึ่งแต่เดิมรองรับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงานที่ชื่นชอบในการรับประทานเมนูเส้น
ตลอดจนผู้ที่ต้องการอาหารที่รวดเร็ว สะดวก อร่อยและมีคุณภาพ และด้วยความนิยม จนพบว่าลูกค้าที่เข้ามาในร้านมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มาเป็นครอบครัว จึงต่อยอดขยายสาขาโดยร่วมกับปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่มีศักยภาพและทำเลที่เหมาะสม จึงเริ่มนำร่องขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยมา สู่แห่งใหม่ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนอ่างศิลา-พระยาสัจจา ถือเป็นสาขาที่ 5 แล้วในปัจจุบันนี้
ในมุมมองของผู้บริหารรุ่นใหม่ ทำให้เลือกที่จะใช้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” เป็นเครื่องมือการตลาดสำคัญ เพราะต้องการให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด จึงเลือกบุกตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่อยู่ต่างจังหวัดเป็นหลัก
“เราเห็นโอกาสในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ (food retail) ซึ่งเป็นความพยายามของ ผู้บริหารทายาทรุ่นที่ 3 เพื่อต่อยอดธุรกิจให้มีความหลากหลาย เนื่องจากปัจจุบันบริษัทผลิต จำหน่าย และส่งออกไปทั่วโลก ซึ่งไม่มีการให้เฟรนไชส์และลิขสิทธิ์ในการผลิตกับประเทศอื่น ดังนั้นจึงนำสินค้ามาต่อยอดและสร้างมูลค่า ตลอดจนเพิ่มช่องทางการขายใหม่ โดยชื่อร้านมาจากแบรนด์ควิกแสบ ที่มีอยู่แล้วมาใช้ในการตั้งชื่อ ร้านควิกเทอเรส"
“ยศสรัล แต้มคงคา” ผู้อำนวยบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด หนึ่งในทีมผู้บริหารไวไว GEN3 บอกว่า รายงานของสมาคมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโลก (WINA) พบว่าในปี 2565 ความต้องการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วโลกสูงถึง 1.21 แสนล้านซอง เพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่สำคัญคนไทยมีสถิติบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถึง 3,870 ล้านซองต่อปี ซึ่งถือเป็นอันดับที่ 9 เท่ากับว่ากลุ่มผู้ที่บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยยังจัดอยู่ในสัดส่วนที่ดีพอสมควร
ส่วนการเลือกใช้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” นั้น เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในพื้นที่ต่างจังหวัดย่อมมีอัตราการกระจายตัวของประชากรมากกว่า จึงมองเห็นโอกาสที่จะได้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่า สร้างแบรนด์อิมเมจได้รวดเร็วกว่า จึงเลือกที่จะการเดินเข้าไปหาและให้ความสำคัญแบบจริงใจกับผู้บริโภคกลุ่มนี้
ดังนั้นแผนการขยายสาขาใหม่อีก 3 แห่งในอนาคต จึงเลือกเปิดที่ จ.ชลบุรี (ปั๊ม ปตท. บายพาส) , จ.สมุทรสาคร อีก 2 สาขาคือ สาขาอ้อมน้อย (ปั๊ม ปตท. อ้อมน้อย ฝั่งขาออก) และสาขากระทุ่มแบน (ปั๊ม ปตท. ถนนเศรษฐกิจ) ซึ่งการเลือกเปิดในต่างจังหวัด ถือเป็นเกมที่ซัคเซส เห็นได้จากยอดขายทุกสาขาในปีนี้ มียอดขายเติบโตมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน
“การเลือกทำเล เช่น ร้านควิกเทอเรสสาขา 5 ซึ่งตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนอ่างศิลา-พระยาสัจจา นอกจากทำเลที่มีศักยภาพแล้ว อ่างศิลาถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก เดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียว และมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติจำนวนมาก เราจึงสร้างจุดเด่นด้วยการเพิ่มเมนูใหม่ที่ต่างจากเมนูเดิม
คือ เมี่ยงเส้นหมี่เวียดนามหมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว เมี่ยงเส้นหมี่อัญชันกุ้งน้ำจิ้มซีฟู้ด และเมนูเดิมที่ยังมีการตอบรับที่ดีจากลูกค้า คือ เส้นเล็กผัดไทยกุ้งสด ไวไวผัดฉ่าทะเล ต้มนำกุ้งน้ำข้น ต้มยำปลาหมึกน้ำข้นและต้มยำทะเลน้ำข้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าใหม่ที่วางขายเพิ่ม คือ เส้นหมี่เวียดนาม ซอสปรุงรสอเนกประสงค์ ซอสผัดกะเพรา และซอสผัดฉ่า และสินค้าใหม่จากทีมนวัตกรรม คือ บะหมี่เปลือยญี่ปุ่นและเส้นหมี่ขาวไฟเบอร์
“จุดแข็งของ “ไวไว” คือไม่ได้มีแค่เส้นบะหมี่ แต่ยังมีเส้นหมี่ที่มีความเหนียวนุ่ม และมีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความรู้ ความสามารถ มองว่าธุรกิจนี้สามารถที่จะต่อยอดโดยพัฒนารสชาติใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน และสเต็ปต่อไปบริษัทวางแผนขยายสาขาใหม่ๆ เพื่อกระจายรัศมีของ ‘ป่าล้อมเมือง’ เพิ่มขึ้นไปอีก
เป้าหมายระยะสั้น บริษัทมีแผนเปิดร้านใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนในระยะยาว มีแผนที่จะเปิดสาขาตามศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทในแต่ละจังหวัดเพิ่มอีกในอนาคตด้วย”
การก้าวออกจาก safe zone ของทั้ง “มาม่า” และ “ไวไว” ที่อยู่มาหลายทศวรรษ ล้วนเป็นแนวคิดของผู้บริหารรุ่นใหม่ ด้วยกลยุทธ์และโอกาสที่แตกต่างกันไป ยังต้องจับตาถึง “ความสำเร็จ” ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต...