‘จอยลิเดย์’ ทุ่ม 100 ล้าน รุกตลาดเครื่องเล่นในศูนย์การค้า
เปิดแนวรบ “แฟมมิลี่ อะมิวส์เม้นท์” ตอกย้ำผู้นำตลาดเครื่องเล่นในศูนย์การค้า ประกาศรีแบรนด์สู่ “จอยลิเดย์” พร้อมทุ่มกว่า 100 ล้านบาทขยายสาขา-รีโนเวท รองรับตลาด FEC โตแรง
นายสรวิศ ปัญจมณีโชติ ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท แฟมมิลี่ อะมิวส์เม้นท์ จำกัด ผู้นำศูนย์รวมเครื่องเล่นในศูนย์การค้า ภายใต้แบรนด์ “จอยลิเดย์” (Joyliday) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทมีแนวคิดในการรีแบรนดิ้ง ภายใต้ชื่อ “จอยลิเดย์” (Joyliday) ให้มีความทันสมัย เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง พร้อมรองรับตลาด Family Entertainment Center (FEC) ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ ครอบครัว คนเริ่มต้นทำงาน และผู้ที่ชื่นชอบเครื่องเล่น จนปัจจุบันมีสาขารวม 28 สาขา ในศูนย์การค้าชั้นนำทั่วประเทศ
ทั้งนี้กลุ่มบริษัท แฟมมิลี่ อะมิวส์เม้นท์ฯ เป็นผู้บริหารศูนย์รวมเครื่องเล่นในศูนย์การค้า 7 แบรนด์ ได้แก่ FA Pop, The Lit, The Cloud, Dragon World , FUN Planet , FUN festa และ TOYS World โดยในปี 2565 ได้ปรับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจพร้อมรีแบรนด์ในเครือทั้งหมดเป็น “จอยลิเดย์” (Joyliday) ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เห็นได้จากจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการที่เติบโตต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีสมาชิกผู้เข้าใช้บริการในระบบ Line OA มากกว่า 5 แสนราย
สำหรับแผนรุกตลาดในปี 2567 บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ในการขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 สาขา พร้อมกับการปรับปรุงสาขาเดิมให้มีความทันสมัย นอกจากนี้ยังมีแผนจับมือกับพันธมิตรสร้างสรรค์แคมเปญเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ “จอยลิเดย์” โดยล่าสุดในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวแคมเปญ Joyliday x Orathai Cat แมวจรแววตาสุดอ้อน โดยดึง “คุณตี๋ โกศล ขจีไกรลาส” ศิลปิน NFT จาก Kaze Studio ศิลปะรูปแบบ NFT สู่ตุ๊กตาผ้าแมวในตู้คีบครั้งแรก โดยศิลปินได้แนวคิดจากการหาบ้านให้น้องแมวจร อยากให้คนรักแมวสะสมตุ๊กตา
“จอยลิเดย์เป็นผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำเครื่องเล่นรูปแบบสกิลเกมในประเทศไทย นอกจากจะทำให้ผู้เล่นได้รับความสนุก ลูกค้าจะได้เห็นถึงพัฒนาการของตนเองผ่านการสะสมแสตมป์ในทักษะด้านต่างๆ เช่น Power (พลัง), Brain (สติปัญญา), Aptitude (ไหวพริบ) เป็นต้น ทุกการใช้จ่ายของเครื่องเล่นสกิลเกมสามารถสะสมเป็นพ้อยท์เพื่อรับของสมนาคุณ ยิ่งใช้จ่ายมากก็มีสิทธิ์ได้รับของสมนาคุณได้มากมายเช่นกัน”
รวมทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ทำให้เกิดการใช้เวลาร่วมกันระหว่างคนในครอบครัว และเพื่อนฝูง ด้วยเครื่องเล่นต่างๆที่ได้รับความนิยม อาทิ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติหรือตู้ตุ๊กตา ซึ่งมีตุ๊กตาให้เลือกมากมายเช่นเดียวกับในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถ้าผู้เล่นหยอดเหรียญหรือแตะการ์ดครบตามจำนวนราคาที่กำหนดสามารถรับตุ๊กตากลับบ้านได้ทันที นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นต่างๆมากมาย สำหรับครอบครัวและคนในทุกวัย”
ปัจจุบัน Joyliday มีเครื่องเล่นทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่ 1.Prize Zone (โซนออกสินค้า) 2. Stamp Zone (โซนสะสมแสตมป์) 3. Kid & Family Zone (โซนเครื่องเล่นครอบครัว) 4. Action Zone (โซนแอคชั่น) 5. Karaoke Zone (โซนคาราโอเกะ) และ 6. Playport Zone (โซนบ้านบอล)
ด้านนางสาวจิรัฏชญา แช่มสกุล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มบริษัท แฟมมิลี่ อะมิวส์เม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดเป็นการปรับปรุงสาขาภายในเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ พร้อมรีแบรนด์เป็น “จอยลิเดย์” บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 พร้อมกับการเปิดโฉมใหม่ของเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เพื่อรองรับกำลังซื้อของชาวกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก
โดยไฮไลท์ “จอยลิเดย์” สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ คือ Asphalt 9: Legends เครื่องเล่นที่ มียอดดาวน์โหลดบน Nintendo Switch ทะลุ 1 ล้านครั้ง ที่นำเกมสุดฮิตออนไลน์มาเป็นเกมเครื่องเล่นความเร็วสุดมันส์ สเป็กโหด สำหรับผู้ที่ชอบความเร็ว กับเกมที่เคลื่อนไหวแบบ 5D เสมือนบรรยากาศการแข่งรถที่น่าตื่นเต้น ด้วยจุดเด่นที่มีซุปเปอร์คาร์สุดเท่ ให้เลือกมากกว่า 20 คัน บนสนามแข่งที่มีให้เลือกถึง 16 สนามแข่งใน 4 สถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และยังสปินได้แบบ 360 องศาที่สวยงามเพื่อเอาชนะคู่แข่ง
“หลังจากที่โควิด-19 คลี่คลายและคนไทยกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติใหม่ มีการทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น และเครื่องเล่นภายในศูนย์การค้า ถือเป็นอีกทางเลือกที่กลุ่มครอบครัวให้ความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ทั้งครอบครัว ขณะที่ “จอยลิเดย์” ถือเป็นผู้นำในตลาดเครื่องเล่นในศูนย์การค้า ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตมากกว่า 20% กว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายสรวิศ กล่าวในตอนท้าย
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,948 วันที่ 14 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2566