นายภูมิเกียรติ โชติชัยชรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ครบรอบ 50 ปี ที่ล่ำสูงดำเนินดำเนินการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม ไขมันพืชผสม และเนยเทียม ออกสู่ตลาด ปัจจุบันอยู่ในมาร์เก็ตแชร์อันดับ 2 ของตลาดผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม ซึ่งห่างจากมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ของตลาดพอสมควร คาดว่าจะต้องใช้เวลา 3-5 ปี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เข้าไปชิงสัดส่วนในตลาดเพิ่มขึ้น โดยเน้นไปในกลุ่มซอฟต์ออยล์ ที่ปัจจุบันล่ำสูงครองตลาดเป็นเบอร์ 1 เช่น น้ำมันคาโนลา น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว
"ตอนนี้เทรนด์สุขภาพมาแรง ผู้บริโภคยอมจ่ายแพงมากขึ้นเพื่อสุขภาพ ทำให้ตลาดซอฟต์ออยล์เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าในระยะยาวตลาดจะเติบโตมากขึ้นด้วย โดยจะเน้นกลยุทธ์การให้ความรู้กับผู้บริโภคเพื่อทำขยายตลาดในกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางไปจนถึงระดับบนเป็นอันดับแรก"
นอกจากนี้กลยุทธ์หลักในการดึงดูดลูกค้าคือ คุณภาพของสินค้าและคุณค่าทางโภชนาการ ที่ล่ำสูงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพเริ่มตั้งแต่วัตถุดิบหลักที่ดำเนินธุรกิจปลูกปาล์มน้ำมันเอง มีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบและโรงงานสกัดน้ำมันเมล็ดในปาล์มเป็นของตนเอง ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบได้ในทุกขั้นตอน ทั้งยังคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า พัฒนาระบบการผลิตด้วยเครื่องจักรให้ทันสมัยอยู่เสมอ พร้อมขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐาน ตลอดจนการขนส่งจนถึงมือลูกค้าและบริการหลังการขาย
ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ล่ำสูงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในทุกผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดเสมอมา ทำให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกคือน้ำมันพืชหยก ต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้ครอบคลุมการใช้งานในครัวเรือน รวมถึงการควบรวมธุรกิจกับบริษัท อาหารสากล จำกัด (มหาชน) หรือ UFC ซึ่งประกอบธุรกิจหลักเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผัก และผลไม้แปรรูป เช่น ผักและผลไม้กระป๋อง น้ำผลไม้พร้อมดื่ม และซอสปรุงรส ภายใต้เครื่องหมายการค้าตรา UFC ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรามีความหลากหลาย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่มตั้งแต่ครัวเรือน ร้านอาหารหรือเบเกอรี่ ธุรกิจ SME ไปจนธุรกิจขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งตลาดต่างประเทศ
ในโอกาสที่จะก้าวสู่ปีที่ 51 ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัท คือ NICE ที่ครอบคลุมในมิติความยั่งยืนทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม โดย N มาจาก Ensure: มั่นใจว่าเรามีการใช้ทรัพยากรและพลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า, I มาจาก Innovate: คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ส่วน C มาจาก Conduct: ดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายการกำกับดูแลกิจการ อย่างโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ และ E มาจาก Educate: การให้และเพิ่มพูนความรู้แก่ประชาชน เพื่อให้เข้าใจและตระหนักถึงการบริโภคอย่างยั่งยืน
นางสาวณฐภา เศรษฐนันท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับน้ำมันพืชพรีเมียมมีอยู่ 2 แบรนด์ ไก้แก่ หยก-เอ็กซ์ตร้า และเนเชอเรล (Naturel) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีตั้งแต่ช่วงหลังโควิดเป็นต้นมา แม้สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบทำให้ตลาดดรอปลงเล็กน้อย แต่กลุ่มสินค้าน้ำมันปาล์มยังคงสร้างรายได้ให้กับบริษัทในสัดส่วนถึง 85%
ทั้งนี้ บริษัทยังปรับกลยุทธ์ขยายาฐานลูกค้าไปสู่คนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ผ่านการสื่อสารของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่มีความอความเรียลในการรีวิวสินค้า เพื่อให้เป็น Top Of Mind ครองใจผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมสร้างคอมมูนิตี้ด้านอาหารทางออนไลน์และตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางทางออนไลน์ให้ถึง 10% ภายใน 1-2 ปี