นางสาววิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรองเท้าในประเทศไทยซึ่งมีมูลค่ากว่า 9.5 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมาคาดว่ามีการเติบโตราว 8% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ต้นปีคาดว่าจะมีการเติบโต 10% หลังจากที่ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ไม่ดีนัก ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคทำให้เป้าหมายรวมไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดีในปีนี้เชื่อว่าตลาดจะยังคงมีการเติบโต 5-6% ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568
ขณะที่บาจา (ประเทศไทย) ยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีการเติบโต 17% หลังจากที่บริษัทเดินหน้ารุกตลาดเต็มที่ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ รวมไปถึงการปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยขึ้น ขยายช่องทางในด้านโซเชียลมีเดียมากขึ้น และกระตุ้นการขายด้วยแบรนด์แอมบาสเดอร์คนดัง
อย่าง “เบลล่า-ราณี แคมเปน” เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง เสริมทัพด้วยเหล่า Friends of Bata ซี-พฤกษ์ พานิช, นุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์, โบกี้ไลอ้อน และ เดอะทอยส์ การนำเสนอสินค้าคอลเลคชันใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อให้สอดรับกับเทรนด์แฟชั่นที่ทันสมัย และปรับหน้าร้านใหม่
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้ บริษัทจะโฟกัสใน 2 เรื่อง ได้แก่
1. การปรับหน้าร้าน ทั้ง 235 สาขา ให้ทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมให้ลูกค้าช้อปสนุกและเป็นกันเองมากขึ้น รวมทั้งยังมี Automatic Tool ที่ทำให้เราทำงานและเข้าถึงได้ลูกค้าเร็วขึ้นกว่าเดิม
2. การพัฒนาสินค้าใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Style with Comfort” เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็น Red Label สินค้าไลน์แฟชั่น ที่ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มไปสู่กลุ่ม Younger ที่มี Style Conscious คือรักแฟชั่นอย่างแท้จริงและรู้จักเลือกในสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง
ในปีนี้จะขยายไลน์ด้วยการเปิดตัว “Red Collection” ที่ รวมทั้งมีคอลเลคชันใหม่ ในกลุ่ม North Star สนีกเกอร์สายสตรีท และ Power สนีกเกอร์สายกีฬา กลุ่มรองเท้าที่เป็น Heritage ทั้งรองเท้าแตะใส่สบายไลน์ Comfit รองเท้ากลุ่ม Dress Working Shoes Uniform รองเท้าสำหรับหลากหลายอาชีพ ทุกสถานการณ์และรองเท้าเด็ก ภายใต้แบรนด์ “บับเบิ้ลกัมเมอร์”
“จุดยืนของบาจา คือ shoes for all ด้วยคอนเซ็ป “style with comfort” ซึ่งเป็นกลุ่มรองเท้าแฟชั่นกับความสวยมีสไตล์และใส่สบายคุณภาพมาตรฐานยุโรป แต่มาในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมทั้งยังเสริมประสบการณ์การซื้อสินค้าอย่างไร้ขีดจำกัดผ่านเซอร์วิสใหม่ “You Shop We Ship” สนุกกับการช้อปที่ร้านและสามารถสั่งสินค้าส่งตรงถึงบ้าน”
นอกจากนี้ยังมี Pocket Franchise ที่เปิดโอกาสให้ให้สมาชิกสามารถรับค่าคอมมิชชั่นจากการแนะนำสินค้า เพียงแชร์สินค้าที่ลูกค้าชื่นชอบผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลของตัวเอง ก็จะได้รับค่าตอบแทน 15% จากยอดขายเมื่อมีคนสั่งซื้อสินค้าผ่านลิงค์ ซึ่งปัจจุบัน Bata Club มีสมาชิกอยู่ราว 2 ล้านราย ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะดึงสมาชิก เหล่านั้นกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่แอคทีฟราว 10% เท่านั้น
นางสาววิลาสินี กล่าวอีกว่า ยังมีกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจและมองว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ เช่น คุณแม่มือใหม่ ที่ต้องการรองเท้าที่มีคุณภาพ คนวัยทำงาน กลุ่ม Millennials ซึ่งเป็นกลุ่มที่เรายึดถึงจากการพัฒนารองเท้ามาเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้
โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 3-4 แสนคน จากปีก่อนที่มีฐานลูกค้าใหม่เข้ามาราว 4 แสนคน ขณะที่ในปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายเติบโตขึ้น 12% อย่างไรก็ดีจากการรุกทำตลาดในทุกเซ็กเม้นต์ จะทำให้บาจามีการเติบโตและมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 ภายในปี 2571
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,962 วันที่ 1 - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567