เซ็นทรัล รีเทล ทุ่มงบ 2.4 หมื่นล้าน เขย่าค้าปลีกไทย

18 ก.พ. 2567 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.พ. 2567 | 08:08 น.

มั่นใจอุตสาหกรรมค้าปลีก 4 ล้านล้านบาท โอกาสสดใส “เซ็นทรัล รีเทล” สาดงบลงทุน 2.2 - 2.4 หมื่นล้านเดินหน้ากลุ่มธุรกิจแฟชั่น ฟู้ด ฮาร์ด ไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดันรายได้โต 11% พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ 5 ปี เดินหน้าสู่ “CRC OMNI-Intelligence” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมที่มีส่วนในการขับเคลื่อนประเทศอย่างการส่งออก การท่องเที่ยว และค้าปลีก เปรียบเหมือนสามทหารเสือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ อุตสาหกรรมค้าปลีกมีมูลค่าสูงถึง 4 ล้านล้านบาท เติบโต 2-3% ทุกปี ซึ่งการเติบโตของค้าปลีกขึ้นอยู่กับ GDP ของประเทศ เดิมทีค้าปลีกจะเติบโตมากกว่า GDP ของประเทศ 2-3% แต่ในปัจจุบันเติบโตเท่ากันหรือน้อยกว่า GDP ของประเทศด้วยซ้ำ ฉายภาพให้เห็นว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก

ญนน์ โภคทรัพย์

 เพื่อการเติบโตอันแข็งแกร่ง เซ็นทรัล รีเทล บิ๊กเพลเยอร์อุตสาหกรรมค้าปลีก ประกาศยุทธศาสตร์ 5 ปี เดินหน้าสู่ “CRC OMNI-Intelligence” เต็มรูปแบบเพื่อขับเคลื่อนองค์กรโดยการสร้าง Impact ที่มุ่งเน้นทั้งด้าน Profit และ Planet ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนโดย CRC OMNI-Intelligence ประกอบไปด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ (5R) ได้แก่

  1.  Revolutionise Core Strength คือ การยกระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักใน โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง เน้นการลงทุนอย่างชาญฉลาด เพื่อเพิ่มคุณค่าระยะยาวให้กับธุรกิจ
  2.  Reinforce Financial Resilience คือ การทำให้สถานภาพทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และมีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น และมีความยืดหยุ่นทางด้านการเงิน บนหลักการบริหาร 3C (Cash, Cost, Capex)
  3. Reinvent Beyond Retail คือ การต่อยอดธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีก เช่น การเข้าไปเป็นส่วนสำคัญใน Community ต่างๆ รวมถึงการขยายอีโคซิสเต็มจาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้า Scale up อย่างต่อเนื่อง
  4.  Reimagine Human Capital คือ การพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ด้วยการรวม Intelligence ของ AI และ HI เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อขยายขีดความสามารถในการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และการเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มออมนิแชแนลแบบทวีคูณ
  5. Rally Green Impact คือ การยกระดับการทำ Green Transition ด้วยการผนึกกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ มาร่วมมือกันแก้ปัญหา Climate Change เพื่อไม่ให้ไปสู่ Climate Crisis โดยการลดการใช้พลังงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโลกสีเขียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดแผน ‘เซ็นทรัล รีเทล’ ตั้งเป้ารุกเมืองรอง บุกเวียดนาม https://www.thansettakij.com/business/marketing/588266

นายญนน์ กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence ที่เซ็นทรัล รีเทล ต่อยอดมาเป็นแผนงานปี 2567 ที่มีเป้าหมายผลประกอบการ คือ รายได้เติบโต 9-11% EBITDA เติบโต 15-17% และใช้งบลงทุน 22,000-24,000 ล้านบาท โดยมีแผนการดำเนินงานในปีนี้ ประกอบไปด้วย

เซ็นทรัล รีเทล ทุ่มงบ 2.4 หมื่นล้าน เขย่าค้าปลีกไทย

  • กลุ่มแฟชั่น : การพัฒนาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แฟล็กชิปสโตร์ สาขาชิดลม สู่การเป็น World Class Luxury Destination รวมถึงการขยายสาขาเพิ่ม 2 แห่ง รวมสาขาในไทยทั้งสิ้น 88 สาขา พร้อมรีโนเวทและอัพเกรดห้างอีก 4 แห่ง ตลอดจนมีแผนเพิ่มแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และนำแบรนด์ในไทยขยายไปยังเวียดนาม
  •  กลุ่มฟู้ด : เดินหน้าขยาย GO Wholesale อีก 7 สาขา ตั้งเป้าขยายรวม 40 สาขา ภายใน 5 ปี และก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 Omni B2B ในกลุ่ม HoReCa นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขา Tops รวม 10 สาขาในไทย สำหรับประเทศเวียดนาม มีแผนเปิด ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! 3 สาขา และ go! (มินิ โก!) อีก 9 สาขา
  •  กลุ่มฮาร์ดไลน์ : เดินหน้าขยายสาขาไทวัสดุ 9 สาขา พร้อมรีโนเวทอีก 4 สาขา และได้ทรานส์ฟอร์มเหงียนคิมในเวียดนามให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
  •  กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ : ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีการพัฒนาและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม มีแผนขยายอีก 3 สาขา โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 ด้วยจำนวน 42 สาขา ครอบคลุม 42 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ

 “จากแผนดังกล่าวการขยายสาขาของกลุ่มธุรกิจในเครือใช้ Big Data เป็นที่ตั้งว่าเราควรจะมุ่งไปที่ธุรกิจใด และให้ความสำคัญต่อประเทศใด อย่างปีนี้ทางเซ็นทรัล รีเทลมองว่าวัสดุก่อสร้างเติบโตจึงมีการขยายสาขาไทวัสดุอย่างต่อเนื่อง และประเทศเวียดนามมีการเติบโตของกลุ่มฟู้ดมากที่สุดส่งผลให้มีการขยายศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม”

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,966 วันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567