ลุ้นขึ้นเบอร์ 1 ตลาดเครื่องฟอกอากาศ “แอลจี” เบนเข็มจับทาสหมา-ทาสแมว

ตลาดเครื่องฟอกอากาศเกือบหลับแต่กลับมาได้ ในช่วงปี 2565 ตลาดเครื่องฟอกอากาศชะลอตัวแต่กลับมาโตพุ่งถึง 58% ในปี 2566 คาดการณ์ในปี 2567 โต 30%

นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อิเล็กทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึง ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเครื่องฟอกอากาศเติบโตมาจาก 3 ปัจจัย นั่นคือ ปัญหาฝุ่น PM2.5, อากาศที่ร้อนขึ้นทำให้คนต้องติดเครื่องปรับอากาศและเมื่อติดเครื่องปรับอากาศก็ต้องมีเครื่องฟอกอากาศตามมา และไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่นิยมเลี้ยงสัตว์ของคนไทยที่เพิ่มขึ้น เหล่าทาสต้องการอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงพร้อมอากาศที่ดี

ประเทศไทยมีสัตว์เลี้ยงกว่า 18.5 ล้านตัว โดยเป็นสุนัข 61% แมว 24% และสัตว์อื่น ๆ 15% ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวสอดรับกับสังคมเมือง โดยคนกลุ่มนี้มีตั้งแต่คนโสด คู่รัก กลุ่ม Transgender และกลุ่มผู้สูงอายุ ปัจจัยดังเหล่าคือสิ่งที่ทำให้แอลจีมองกลุ่มคนรักสัตว์เป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายสำคัญของตลาดเครื่องฟอกอากาศระดับพรีเมี่ยมบรรดาเหล่าทาสพร้อมจ่ายให้กับสัตว์เลี้ยงของตนเองนั้นประมาณ 15,735 บาทต่อปี

เพื่อตอบรับเทรนด์ดังกล่าว แอลจีเดินเกมรุกตลาดกลุ่ม Pet Parents พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศสำหรับครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยงตามมาในรุ่น LG PuriCare 360 Alpha Pet โดยหวังมาตอบโจทย์เรื่องของการกรองไรขนสัตว์, การลดกลิ่นสัตว์เลี้ยงภายในห้อง และฟิลเตอร์ที่ช่วยกำจัดกลิ่นต่าง ๆ ได้ดีขึ้น จะวางจำหน่ายในราคา 27,900 บาท และรุ่น AS10GDBY0ในราคา 43,900 บาท เพื่อรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งบ้านที่มีการเลี้ยงสัตว์ในบ้าน และการเลี้ยงในคอนโดมิเนียม หรือแม้แต่การใช้ในสำนักงานต่าง ๆ ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศระดับพรีเมียมไปติดตั้ง

ความน่าสนใจของตลาดเครื่องฟอกอากาศคือผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย ตั้งแต่กลุ่มแมสที่ราคาเริ่มต้น 1,000 บาทขึ้นไป และตลาดพรีเมี่ยมที่ราคา 15,000 บาทขึ้นไป ซึ่ง LG PuriCare 360 Alpha Pet จัดอยู่ในกลุ่มพรีเมี่ยมเป็นเซ็กเมนต์ของแอลจีที่วางหมากมาเพื่อกระตุ้นให้ตลาดต่อตามคาดในปีนี้ นายอำนาจ สิงหจันทร์ กล่าวทิ้งท้าย