กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งบนโลกโซเชียล เมื่อพิซซ่าเจ้าดังอย่าง The Pizza Company ได้ริเริ่ม Campaign สุดไวรัล ลดราคาพิซซ่าถาดกลางเหลือเพียง 99 บาท จนต่อมาทางฝั่ง Pizza Hut ได้เกาะกระแสทำ Guerrilla marketing โดยการลดราคาพิซซ่าถาดกลางเช่นเดียวกัน แต่สู้ราคาเหลือเพียง 98 บาท
และสุดท้ายทางฝั่งของ Domino's Pizza ผู้สวนกระแส Campaign ของทั้ง 2 ฝ่าย โดยการออกจดหมายถึงลูกค้าว่า การทำโปรโมชันของ Domimo’s Pizza ต้องนึกถึงหลักความเป็นจริง และคำนึงถึงคุณภาพ การบริการ และการจัดส่ง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
เมื่อ Campaign ของแต่ละเจ้าได้ปล่อยออกไป บนโซเชียลมีเดียมีการพูดถึงและสนใจกันอย่างมากซึ่งแต่ละ Campaign ถูกพูดถึงอย่างไรกันบ้างทาง Wisesight Research จึงได้ทำการเก็บข้อมูลของทั้ง 3 Campaign ตั้งแต่วันที่ 20-23 พฤษภาคม 2567 พบว่า
The Pizza Company มีการพูดถึงโดยรวมกว่า 63,394 messages ได้รับเอ็นเกจเมนต์รวมกว่า 1,013,028 ครั้ง ซึ่งการพูดถึงจากผู้คนบนโซเชียลมีเดียเป็น Positive 3,567 message Negative 2,659 message โดยที่
การพูดถึงด้าน Positive เป็นการชื่นชม และชื่นชอบในตัวโปรโมชันที่คุ้มค่าไม่เคยเห็นมาก่อน จนทำให้ผู้คนสนใจและแห่ไปซื้อกันอย่างล้นหลาม
ส่วนด้านของ Negative จะพูดถึงเรื่องของการจัดการในเรื่องต่อแถวซื้อที่แถวยาว และแสดงความสงสารต่อพนักงานหน้าร้านเพราะงานเยอะขึ้น รวมถึงเรื่องคุณภาพของสินค้ากลับลดลง เช่น พิซซ่าไหม้ หรือแป้งไม่สุก
Pizza Hut มีการพูดถึงโดยรวมกว่า 50,008 messages ได้รับเอ็นเกจเมนต์รวมกว่า 602,277 ครั้ง ซึ่งการพูดถึงจากผู้คนบนโซเชียลมีเดียเป็น Positive 2,091 message Negative 1,808 message โดยที่
การพูดถึงด้าน Positive เป็นเรื่องของความชื่นชอบที่ทำโปรโมชันออกมาแข่ง ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลประโยชน์ บางความเห็นบอกว่าตกหล่นจากการสั่งซื้อของ The Pizza Company ทำให้มาซื้อของ Pizza Hut ทดแทน
ในด้านของ Negative พูดถึงในด้านของการจัดการเช่นเดียวกันทั้งในเรื่องของระบบสั่งอาหารล่ม หรือพูดถึงความไม่คุ้มค่าเพราะลดราคามาแค่ 1 บาทจากของ The Pizza Company
Domimo’s Pizza มีการพูดถึงโดยรวมกว่า 5,619 messages ได้รับเอ็นเกจเมนต์รวมกว่า 94,192 ครั้ง ซึ่งการพูดถึงจากผู้คนบนโซเชียลมีเดียเป็น Positive 959 message Negative 95 message โดยที่
การพูดถึงด้าน Positive ผู้คนบนโซเชียลมีเดียต่างชื่นชมที่แบรนด์มองความถึงเป็นจริง รักษามาตรฐานของตัวสินค้าและการบริการ และมีการพูดถึงอยากให้มีการขยายสาขาเพิ่ม เพื่ออยากจะร่วมที่สนับสนุนแบรนด์
ในด้านของ Negative ส่วนใหญ่ที่พูดถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับโปรโมชันแต่เป็นในเรื่องของรสชาติ และสาขาที่ค่อนข้างน้อย
แคมเปญการตลาดที่มาสร้างสีสันบนโลกโซเชียลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแข่งขันของแบรนด์ที่ออกมาเพื่อสร้างยอดขายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ โปรโมชันที่น่าสนใจมักได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ผลของแคมเปญนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ หรือเป็นผู้แพ้ไม่สามารถตอบได้ แต่หากแบรนด์ไหนยึดหลักในการสร้างความประทับใจทั้งในเรื่องของคุณภาพสินค้าและการบริการที่ดีเยี่ยมต่อผู้บริโภค รวมถึงรับฟังเสียงของผู้บริโภค แบรนด์นั้นจะสามารถเป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืน