'JSP' ชี้ค่าเงินบาทแข็ง ยาไทยได้อานิสงส์ ต้นทุนลด-กำไรพุ่ง

25 ก.ย. 2567 | 22:55 น.

ค่าเงินบาทแข็ง 'JSP' ชี้บริษัทยาในไทยได้อานิสงส์ ต้นทุนลด ผลิตขายในประเทศได้กำไร แต่ส่งออกอาจได้รับผลกระทบ

นายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเภสัชกรรมในหลายแง่มุม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการนำเข้าวัตถุดิบ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตยา เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมีต้นทุนที่ถูกลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทลดลงตามไปด้วย

นายพิษณุ แดงประเสริฐ

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบนี้จะส่งผลดีต่อบริษัทที่เน้นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก เช่น JSP ซึ่งให้ความสำคัญกับการยึดฐานในตลาดภายในประเทศมากกว่าการส่งออก

ข้อดี คือ ต้นทุนการผลิตลดลง ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้การนำเข้าวัตถุดิบมีต้นทุนที่ถูกลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตโดยรวมลดลง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ต้นทุนการผลิตที่ลดลง ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น 

\'JSP\' ชี้ค่าเงินบาทแข็ง ยาไทยได้อานิสงส์ ต้นทุนลด-กำไรพุ่ง

ส่วน ข้อเสีย คือรายได้จากการส่งออกลดลง หากบริษัทมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ รายได้ที่ได้รับเมื่อแปลงกลับเป็นเงินบาทจะลดลง เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น

 

ขณะที่ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโดยรวม คือ การส่งออกที่ลดลงอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในภาพรวม JSP ซึ่งเน้นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก จึงได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง อย่างไรก็ตาม สำหรับอุตสาหกรรมเภสัชกรรมโดยรวม อาจมีทั้งผลดีและผลเสีย ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของการผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศและการส่งออกของแต่ละบริษัท

“ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเภสัชกรรมแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ทางธุรกิจของแต่ละบริษัท

บริษัทที่เน้นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนการผลิตที่ลดลง ในขณะที่บริษัทที่เน้นการส่งออกอาจได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลง”